Folgen

  • คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี3(327)

    วินัยของผู้ลงวินัย!

    ”พี่น้องทั้งหลาย แม้จับใครที่ละเมิดประการใดได้
    พวกท่านซึ่งอยู่ฝ่ายพระวิญญาณ จงช่วยคนนั้นด้วยใจสุภาพอ่อนโยน
    ให้เขากลับตั้งตัวใหม่ โดยคิดถึงตัวเอง เกรงว่าท่านจะถูกทดลองด้วย“
    ‭‭ ~กาลาเทีย‬ ‭6‬:‭1‬ ‭THSV11‬‬พ
    ”Brothers and sisters, if someone is caught in a sin,
    you who live by the Spirit should restore that person gently.
    But watch yourselves, or you also may be tempted.“
    ‭‭ ~Galatians‬ ‭6‬:‭1‬ ‭NIV‬‬ ลง

    John Wooden กล่าวว่า

    “ จงมีวินัยในตัวเอง
    แล้วคนอื่นจะได้ไม่ต้องลงวินัยคุณ!
    (Discipline yourself,
    and others won't need to.)

    วินัย เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต
    ถ้าเราสร้างวินัยให้กับตัวเองอย่างมีระบบ
    เราก็จะไม่ถูกลงวินัยเพราะความผิดพลาดในเรื่องใดเลย!

    ถ้าเราเป็นผู้นำในองค์กร หรือในคริสตจักร
    เราอาจจำเป็นต้องทำหน้าที่ในการลงวินัยคนในองค์กรที่ทำผิดพลาด
    อย่างไรก็ตาม พระคริสตธรรมคัมภีร์ ได้ให้แนวทาง และคำเตือนสติ
    สำหรับผู้ที่จะลงวินัยคนอื่นไว้ด้วยเช่นกันว่า

    “จะจัดการ ลงวินัย คนทำผิด
    ต้องมีจิต เมตตา เปี่ยมด้วยรัก
    ต้องสุภาพ อ่อนโยน ช่วยเหมาะนัก
    แม้ให้พัก ก็พร้อม ให้เริ่มใหม่

    จะจัดการ ลงวินัย คนทำผิด
    ให้เกาะติด กฎเกณฑ์ ที่ตั้งไว้
    ให้ทุกคน ทำตาม ไม่ว่าใคร
    แต่ใส่ใจ ดุจครอบครัว รักษากัน

    จะจัดการ ลงวินัย คนทำผิด
    ต้องตามติด ดูแล เอาใจใส่
    ไม่ใช่แค่ ลงโทษ สาแก่ใจ
    ต้องห่วงใย เห็นใจ แก้ไขดี

    จะจัดการ ลงวินัย คนทำผิด
    ต้องสะกิด คิดถึง ตัวเองด้วย
    อย่ามุ่งแต่ ตำหนิ เดี๋ยวจะซวย
    ทีมมอดม้วย จบลง พังทลาย

    จะจัดการ ลงวินัย คนทำผิด
    ต้องหยุดคิด หาวิถี ที่ดีกว่า
    ต้องเคียงข้าง ผูกพัน บนมรรคา
    ทุกปัญหา แก้ได้ ดีกว่าเดิม!

    พี่น้องที่รัก
    จงจำไว้เสมอว่า

    “ผู้ที่จะลงวินัยคนอื่น จะต้อง
    1.มีหรือได้รับมอบสิทธิอำนาจให้ทำหน้าที่ดังกล่าว
    2.เป็นแบบอย่างของการมีวินัยอย่างถูกต้องในตัวเอง
    3.เข้าใจเป้าหมาย และ กระบวนการลงวินัยอย่างชัดเจน
    ก่อนที่จะไปลงวินัยผู้อื่นตามกระบวนการ!”

    เราต้องตระหนักไว้เสมอว่า
    เป้าหมายของการลงวินัยบุคคลใด
    ไม่ใช่การกำจัดคนผิดพลาด
    แต่เป็นการนำคนผิดพลาด ให้
    1.ตระหนักถึงความพลาดผิดนั้น
    2.สำนึกตัว
    3.รีบแก้ไข
    4.กลับคืนสู่สภาพเดิม จากนั้นก็
    5.เริ่มต้นใหม่อย่าง
    1).ฉลาดกว่าและ
    2).ดีกว่าเดิม
    ตามกระบวนการที่ปรากฎอยู่ในพระคริสตธรรมคัมภีร์
    ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ เราต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง
    เหมือนดังที่ Paul David Tripp กล่าวไว้ว่า

    “การนำคนให้กลับคืนสู่สภาพเดิมที่แท้จริงนั้น ต้องใช้
    ความอดทน ความละเอียดอ่อน ทักษะ และพระคุณ!”
    (True restoration takes patience, subtlety, skill, and grace.)

    …เห็นด้วยไหมครับ?

    ~~~~~~~~~~~~~~
    ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
    22กุมภาพันธ์2024
    #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
    #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี



    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • เวลาที่เรากำลังอยู่ในขั้นตอนของการทดสอบ พระองค์ทรงอยู่กับเราด้วยเสมอ

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • Fehlende Folgen?

    Hier klicken, um den Feed zu aktualisieren.

  • อาจารย์ช่วยสอนวิธีที่อาจารย์จดจ่อในพระเจ้าทั้งวันให้หน่อยได้ไหมครับ

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • พระธรรมนำชีวิต
    ตอน ใช้ชีวิตให้เป็นพร Ep.884

    ปลายทางของคนที่ต่อต้าน หมิ่นประมาทพระเจ้าจบไม่สวยแน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนอิสราเอลที่ต่อต้านหมิ่นประมาทพระเจ้าน่ากลัวมากๆ

    ”เมื่อท่านกล่าวถ้อยคำทั้งหมดนี้จบ แผ่นดินใต้ที่พวกเขายืนอยู่ก็แยกออก และแผ่นดินก็อ้าปากกลืนเขาทั้งหลายกับครัวเรือน และคนทั้งหมดของโคราห์กับข้าวของทั้งหมดของเขา ดังนั้นเขาทั้งหลายพร้อมกับข้าวของทั้งหมดของเขาก็ลงไปสู่แดนคนตายทั้งเป็น และแผ่นดินก็ปิดเขาไว้ และเขาทั้งหลายก็พินาศไปจากท่ามกลางที่ประชุม อิสราเอลทั้งหมดที่อยู่รอบๆ พวกเขาได้ยินเสียงร้องของเขาก็พากันวิ่งหนี โดยกล่าวว่า “เกรงว่าแผ่นดินจะกลืนเรา” และไฟออกมาจากพระยาห์เวห์ เผาผลาญคนทั้ง 250 ที่ถวายเครื่องหอมนั้น“
    ‭‭กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭31‬-‭35‬

    ลองคิดถึงสภาพตอนนั้น ทั้งภาพทั้งเสียง น่าจะยิ่งกว่าระบบ 3D อีกเพราะนี่คือเหตุการณ์จริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้น่าจะสร้างความตกใจกลัวกับประชาชนคนอิสราเอลอย่างมาก เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้นแบบพิเศษสุดๆ นี่ไม่ใช่เรื่องอุบัติเหตุปกติแน่นอน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาเพื่อจะยืนยันว่าโมเสสเป็นคนทึ่พระเจ้าเลือก

    ”แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงบอกเอเลอาซาร์บุตรอาโรนปุโรหิต ให้นำกระถางไฟออกจากกองไฟ และกระจายก้อนถ่านไฟออกไปไกลๆ เพราะกระถางไฟเหล่านั้นเป็นของบริสุทธิ์ กระถางไฟของคนเหล่านี้ที่ทำบาปจนต้องเสียชีวิตนั้น พวกเจ้าจงตีแผ่ออกเป็นแผ่นคลุมแท่นบูชา เพราะพวกเขาได้ถวายกระถางเหล่านั้นต่อพระยาห์เวห์ จึงเป็นของบริสุทธิ์ และจงให้สิ่งเหล่านี้เป็นหมายสำคัญแก่คนอิสราเอล” ดังนั้นเอเลอาซาร์ปุโรหิตจึงนำกระถางไฟทองสัมฤทธิ์ ซึ่งพวกที่ถูกไฟเผานำไปถวายบูชานั้นมาตีแผ่ออกเป็นแผ่นคลุมแท่นบูชา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนอิสราเอลว่าคนสามัญที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ของอาโรนนั้นห้ามเข้าไปเผาเครื่องหอมเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ มิฉะนั้นจะเป็นอย่างโคราห์และพรรคพวกของเขา เหมือนดังที่พระยาห์เวห์ตรัสกับเอเลอาซาร์ผ่านโมเสส“
    กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭36‬-‭40‬

    แม้ว่าคนทั้ง 250 คนนั้นจะถูกไฟเผาแล้ว พระเจ้าตรัสสั่งให้ปุโรหิตเอเลอาซาร์จัดการกับกระถางที่พวกเขานำมาเพราะถือเป็นของถวายที่บริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์และเป็นของพระเจ้า กระถางนี้ถูกนำมาเป็นเครื่องเตือนใจคนอิสราเอลเรื่องสิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้แต่ละคนตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ขอเราทุกคนจะเรียนรู้ว่าเราไม่สามารถต่อต้าน หมื่นประทานพระเจ้าได้ บางการกระทำของเรานั้น เราอาจจะไม่รู้ตัวว่ากำลังต่อต้านท้าทายสิทธิอำนาจของพระเจ้าที่ประทานให้บางคน อาจจะเป็นบางคนที่เราไม่ชอบ เรื่องนี้ในความเห็นของผมสำหรับโคราห์ ดาธาน อาบีรัมและกลุ่มคนของเขา อาจจะไม่ใช่แค่เพียงไม่ชอบ ผมมองว่าความรู้สึกของพวกเขาอาจไปถึงขั้นอิจฉาโมเสสกับอาโรนเลย ขอพระเจ้าเมตตาเราที่เราจะขอบคุณพระเจ้าสำหรับของประทานและสิทธิอำนาจต่างๆที่พระเจ้าประทานให้ ให้เราระลึกไว้เสมอว่าสิ่งที่พระเจ้านั้นให้กับเราดีที่สุดสำหรับเรา แต่ขอให้เราฝึกฝนที่จะใช้ของประทานหรือสิทธิอำนาจนั้นให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อประโยชน์ในการเสริมสร้างและเป็นความสุข เป็นพรให้กับคนอื่น ผมเชื่อว่าเป้าหมายที่พระเจ้าประทานบางสิ่งให้เรานั้นไม่ใช่เพื่อประโยชน์กับตัวเราเองเท่านั้น แต่เพื่อตัวเราจะเป็นพรและเป็นประโยชน์ในงานของพระเจ้าและเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆรอบตัวเรา
    วุฒิ วงศ์สรรเสริญ

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี3(325)

    ความสุขจากความใจกว้าง!

    ”ท่านจงให้เขาด้วยเต็มใจ(ด้วยใจกว้างขวาง)
    และเมื่อให้เขาแล้วอย่ามีจิตคิดเสียดาย
    ในกรณีนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรแก่ท่าน
    ในกิจการทั้งสิ้นของท่านไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด“
    ‭‭ ~เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭15‬:‭10‬ ‭THSV11‬‬
    ”Give generously to them and do so without a grudging heart;
    then because of this the Lord your God will bless you
    in all your work and in everything you put your hand to.“
    ‭‭ ~Deuteronomy‬ ‭15‬:‭10‬ ‭NIV‬‬

    Marty Rubin กล่าวว่า

    “การมีความสุขกับความสุขของคนอื่นๆ
    นั่นคือ ความใจกว้างที่แท้จริง!”
    (To be happy for the happiness of others,
    that is true generosity.)

    พระเจ้าทรงกำชับให้เรามีใจกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
    ต่อผู้ที่ยากจนขัดสนและช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จึงตรัสกับประชาชนอิสราเอลว่า

    ”ถ้าพี่น้องของเจ้า
    1.ยากจนลงและ
    2.เลี้ยงตนเองท่ามกลางพวกเจ้าไม่ได้
    เจ้าจะต้อง
    1).อย่ามีใจแข็ง
    2).อย่าหดมือไว้เสียจากพี่น้องของเจ้าที่ยากจนนั้น
    3).จงยื่นมือและเลี้ยงดูเขา
    4).จงให้เขาอยู่กับเจ้าอย่างคนต่างด้าวและแขกเมือง
    5).จงให้เขายืมจนพอแก่ความต้องการของเขาที่เขาขาดอยู่นั้น
    6).อย่าหาข้ออ้างหรือคิดในแง่ร้ายต่อพี่น้อง และไม่ยอมให้อะไรเขา
    7).จงให้เขาด้วยเต็มใจ(ใจกว้างขวาง)
    8).อย่ามีจิตคิดเสียดาย เมื่อให้ไปแล้ว
    9).อย่าเอาดอกเบี้ยหรือเงินเพิ่มอะไรจากเขา
    10).จงเลิกการให้ยืมเงินโดยเรียกของประกันจากพี่น้องนั้นเสียเถิด
    11).จงคืนนา สวนองุ่น สวนมะกอก และเรือนของเขา และดอกเบี้ยของเงิน ข้าว
    เหล้าองุ่น และน้ำมัน ซึ่งได้รีดเอาจากพวกเขาเสีย และจะไม่เรียกร้องสิ่งใดๆ จากพวกเขา
    12).อย่าขายพี่น้อง
    13.).จงดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงพระเจ้า เพื่อว่า
    พี่น้องของเจ้าจะอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าได้ และป้องกันการเยาะเย้ย
    14).ห้ามให้พี่น้องของเจ้ายืมเงินเพื่อเอาดอกเบี้ย ไม่ว่า
    ก.ดอกเบี้ยเงินกู้ หรือ
    ข.ดอกเบี้ยเครื่องบริโภค หรือ
    ค.ดอกเบี้ยของสิ่งใดๆ ที่ให้ยืมเพื่อเอาดอกเบี้ย
    15).ห้ามขายอาหารโดยเอากำไรจากพี่น้องที่ยากจน
    16).ให้คนต่างชาติยืมเพื่อเอาดอกเบี้ยก็ได้ “

    โมเสส กล่าวสรุปถึงพระพรที่คนใจกว้างจะได้รับ และกำชับย้ำว่า

    ”พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะทรงอวยพรแก่ท่าน
    1.ในกิจการทุกสิ่งซึ่งท่านทำ ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด
    2.ในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะเข้ายึดครองนั้น
    เพราะว่าคนจนจะไม่หมดไปจากแผ่นดิน เพราะฉะนั้น
    ข้าพเจ้าจึงบัญชาท่านว่า
    ท่านต้องยื่นมือให้อย่างใจกว้าง
    1).ต่อพี่น้องของท่าน คือ
    2).ต่อคนขัดสนคนยากจน ซึ่งอยู่ในแผ่นดินของท่าน“
    ‭‭ ~เฉลยธรรมบัญญัติ‬ ‭15‬:‭7‬-‭11‬ ;23:19-20;เลวีนิติ‬ ‭25‬:‭35‬ ‭‭;เนหะมีย์‬ ‭5‬:‭7‬-‭12‬ ‭

    ใช่ครับ พระเจ้าบัญชาคนของพระเจ้าไว้อย่างชัดเจนว่า
    1.ให้มีเมตตาต่อพี่น้องที่ยากจนขัดสน พร้อมยื่นมือให้และช่วยเหลือ
    2.ไม่ให้เก็บดอกเบี้ยเพื่อเพื่อหวังกำไรจากคนยากจน
    3.ให้มีใจกว้าง ทั้งผ่าน
    1).การให้ และ
    2).การให้ยืม

    พี่น้องที่รัก
    นับจากนี้ เป็นต้นไป ขอให้เรามาช่วยกันทำให้
    1.ตัวเรา และ
    2.ตัวคนอื่น
    มีความสุขมากล้น ผ่านความใจกว้างอย่างเต็มใจของเรา
    เหมือนที่ Cathy Burnham Martin กล่าวไว้ว่า

    “เรามีชีวิตอย่างมีความสุขมากกว่าที่ผ่านๆมาอย่างมากมาย
    เมื่อเราใจกว้างขวางมากขึ้นในหลากหลายวิถีเท่าที่เป็นไปได้!”
    (We live far happier lives when we are generous in as many ways as possible.)

    …จะดีไหม?

    ~~~~~~~~~~~~~~
    ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
    20กุมภาพันธ์2024
    #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
    #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • หากตอนนี้ใจของคุณรู้สึกถูกสั่นคลอนจากเรื่องราวที่กำลังเผชิญอยู่ ให้เราวางความมั่นคงไว้ในพระองค์

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message



  • คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี3(325)

    จะรอให้โดนภัยพิบัติก่อนหรือ?

    ”พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า
    “เราจะนำภัยพิบัติมาสู่ฟาโรห์และอียิปต์อีกอย่างเดียว
    หลังจากนั้นฟาโรห์จะปล่อยพวกเจ้าไปจากที่นี่
    เมื่อเขาปล่อยพวกเจ้าไป เขาจะไล่พวกเจ้าออกจากที่นี่จนหมดอย่างแน่นอน“
    ‭‭ ~อพยพ‬ ‭11‬:‭1‬ ‭THSV11‬‬
    ”Now the Lord had said to Moses,
    “I will bring one more plague on Pharaoh and on Egypt.
    After that, he will let you go from here, and when he does,
    he will drive you out completely.“
    ‭‭ ~Exodus‬ ‭11‬:‭1‬ ‭NIV‬‬

    George Washington(1732~1799) กล่าวว่า

    “ความปรารถนาแรกของผมคือ
    ได้เห็นภัยพิบัติของมนุษยชาติ คือ สงคราม
    ได้ถูกกำจัดให้สูญสลายหายไปจากโลกนี้!”
    (My first wish is to see this plague of mankind, war,
    banished from the earth.)

    พี่น้องที่รัก อย่าให้เราก่อสงครามกับผู้ใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อสงครามกับพระเจ้า
    และเราได้ก่อสงครามกับพระเจ้าแล้ว
    เมื่อเราท้าทายพระเจ้าด้วยการแสดงความไม่เชื่อฟังต่อ คำบัญชาของพระองค์
    ดังนั้น หากเราไม่อยากเข้าสู่สงคราม ก็อย่าให้เราดื้อดึง ดื้อรั้น หรือ ลองดีกับพระเจ้า
    เพราะถ้าเรายังจะทำเช่นนั้นอยู่ ก็ขอบอกตรงนี้เลยว่า
    “ไม่คุ้มเสีย!”

    เหมือนฟาโรห์ ที่ดึงดัน ทำตามอัตตา หรือทิฐิแห่งตน
    ไม่สนใจคำขอ ของพระเจ้า
    ที่พระองค์ขอให้ปล่อยชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์
    แต่หาโรห์ก็ไม่ยอมปล่อยอิสราเอลประชากรของพระเจ้า
    ~ให้พ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ และ
    ~ให้ออกไปสู่ดินแดนคานาอันตามพระบัญชา

    จนกระทั่งฟาโรห์ต้องประสบกับภัยพิบัติถึง10ประการกว่าที่พระองค์จะยอมจำนน
    แต่กระนั้นต่อมา ฟาโรห์ ก็กลับมามีใจแข็งกระด้างไม่เลิกรา
    โดยการเล่นงานคนของพระเจ้าและท้าทายพระเจ้าอีก
    จนฟาโรห์และกองทัพใหญ่ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแทบหมดสิ้นทุกอย่าง

    … ช่างไม่คุ้มเลยจริงๆ!

    ภัยพิบัติที่ฟาโรห์ และอียิปต์ ต้องเผชิญมีอะไรบ้าง!
    1.น้ำในแม่น้ำไนล์กลายเป็นเลือด(อพยพ 7:14-25)
    2.กบขึ้นจากแม่น้ำไนล์(อพยพ 8:1-15)
    3.ผงคลีกลายเป็นริ้น (อพยพ 8:16-19)
    4.เหลือบกระจายไปทั่วแผ่นดิน (อพยพ8:20-32)
    5.ฝูงสัตว์ของคนอียิปต์ตาย (อพยพ9:1-7)
    6.ฝีพุพองเกิดขึ้นไปทั่ว (อพยพ9:8-12)
    7.ฟ้าร้องพร้อมลูกเห็บ (อพยพ9:13-35)
    8.ตั๊กแตนฝูงใหญ่กินพืชผลทั้งหมด (อพยพ 10:1-20)
    9.ความมืดมิดปกคลุมทั่วแผ่นดิน ( อพยพ 10:21-29)
    10.บุตรหัวปีของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ทั้งคนและสัตว์ตาย (อพยพ 11:1-10;12:29-32)

    ความดื้อดึงหรือดื้อรั้นของฟาโรห์ทำให้คนมากมาย
    รวมทั้งคนในครอบครัวของตนเองต้องเดือดร้อน ทุกข์ทรมาน และตาย โดยไม่จำเป็น

    ขอให้เราทำอย่างที่ Lailah Gifty Akita แนะนำว่า

    “จงกลับใจใหม่
    ถ้าคุณปรารถนาที่จะพบกับการพักสงบสำหรับจิตวิญญาณของคุณ!”
    (Repent, if you wish to find rest for your soul.)

    พี่น้องที่รัก
    ขอให้เรา
    1.รีบกลับใจ ด้วยความถ่อมใจ
    2.ยอมจำนนต่อพระเจ้า ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไปจนเกินเยียวยาแก้ไข
    3.อย่าให้ทิฐิ หรือความอวดดีของเรา ทำให้
    1).คนทั้งที่เรารักและคนที่รักเรา กับ
    2).คนอื่นๆที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ต้องรับเคราะห์กรรม อย่างแสนสาหัสเลย

    …จะดีไหม?

    ~~~~~~~~~~~~~~
    ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
    20กุมภาพันธ์2024
    #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
    #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี




    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • พระธรรมนำชีวิต
    ตอน แน่ใจนะว่า... Ep.883

    เมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขันที่ต้องเผชิญหน้าคู่กรณีของเราที่กำลังอยู่ในความขัดแย้งกัน ข้อคิดที่ผมได้รับคือเราแน่ใจจริงๆใช่ไหมว่าเรื่องราวความขัดแย้งนี้ เราเองเป็นฝ่ายที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า ถ้าเราเชื่อฟังทำตามไม่ต้องกลัว แต่หากไม่เชื่อฟังทำตามต้องกลัว แล้วเราต้องรีบกลับใจสารภาพโดยเร็วที่สุด!

    ”และโมเสสพูดกับโคราห์ว่า “ตัวท่านและพรรคพวกของท่านทั้งหมดจงมาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ในวันพรุ่งนี้ ทั้งตัวท่าน พรรคพวกของท่าน และอาโรน“
    กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭16‬

    เมื่อโมเสสระบายความในใจแล้วร้องขอต่อพระเจ้าไม่ให้ฟังกลุ่มคนของโคราห์แล้ว ก็ถึงเวลานัดหมายกำหนดการเพื่อจะมาฟังคำตอบจากพระเจ้า

    ”โคราห์ก็รวบรวมชุมนุมชนทั้งหมดตรงทางเข้าเต็นท์นัดพบ และประจันหน้าท่านทั้งสอง แล้วพระสิริของพระยาห์เวห์ก็ปรากฏต่อชุมนุมชนทั้งหมด“
    กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭19‬

    ดูเหมือนว่าพวกโคราห์เองก็ไม่ได้คิดเลยว่าพวกเขากำลังต่อต้านพระเจ้าอยู่ ด้วยพฤติกรรมการต่อต้านโมเสส

    ”พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “จงแยกตัวจากท่ามกลางชุมนุมชนนี้ เพื่อเราจะผลาญพวกเขาเสียในพริบตาเดียว”“
    กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭20‬-‭21‬ ‭

    พระเจ้าต้องการลงโทษคนที่ไม่เชื่อฟังที่ต่อต้านพระองค์ พระเจ้าทรงบอกให้โมเสสและอาโรนแยกตัวออกมา เพื่อจะลงโทษคนที่ต่อต้านพระเจ้า

    ”เขาทั้งสองซบหน้าลงกราบทูลว่า “ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเป็นพระเจ้าแห่งวิญญาณของมนุษย์ทุกคน เมื่อคนเดียวทำบาป พระองค์จะทรงพระพิโรธต่อชุมนุมชนทั้งหมดหรือ?” พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงพูดกับชุมนุมชนว่า จงออกห่างจากที่อยู่ของโคราห์ ดาธาน และอาบีรัม” แล้วโมเสสก็ลุกขึ้นไปหาดาธานและอาบีรัม และพวกผู้ใหญ่ของอิสราเอลก็ตามท่านไป โมเสสจึงพูดกับชุมนุมชนนั้นว่า “ท่านทั้งหลายจงออกห่างจากเต็นท์ของคนชั่วพวกนี้ อย่าแตะต้องอะไรของพวกเขา มิฉะนั้นท่านทั้งหลายจะถูกกวาดไปกับการบาปทั้งหมดของเขาด้วย”“
    ‭‭กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭22‬-‭26‬ ‭

    นอกจากพระเจ้าจะให้โมเสสและอาโรนแยกตัวออกมา พระเจ้าก็ยังให้ประชาชนแยกตัวออกห่างจากครอบครัวของโคราห์ ดาธาน และอาบีรัม

    ”ดังนั้นเขาทั้งหลายก็ออกห่างจากรอบๆ ที่อยู่ของโคราห์ ดาธาน และอาบีรัม ส่วนดาธานกับอาบีรัมออกมายืนอยู่ที่ประตูเต็นท์ของตน พร้อมกับภรรยา บุตรชาย และลูกเล็กๆ ของเขา และโมเสสกล่าวว่า “ดังนี้แหละท่านทั้งหลายจะทราบว่า พระยาห์เวห์ทรงใช้ข้ามาทำการทั้งหมดนี้ ข้าไม่ได้ทำตามอำเภอใจของข้าเอง ถ้าคนเหล่านี้ตายอย่างคนปกติทุกคนที่ตายไป หรือมีเคราะห์ร้ายอย่างคนปกติมาถึงพวกเขา ก็หมายความว่าพระยาห์เวห์ไม่ได้ทรงใช้ข้ามา แต่ถ้าพระยาห์เวห์ทรงบันดาลสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น และแผ่นดินอ้าปากกลืนพวกเขาเข้าไปพร้อมกับข้าวของทั้งหมดของเขา และเขาทั้งหลายลงไปสู่แดนคนตายทั้งเป็น ท่านทั้งหลายก็จงทราบเถิดว่า คนเหล่านี้ได้หมิ่นประมาทพระยาห์เวห์”“ กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭27‬-‭30‬

    ประชาชนก็เชื่อฟังเสียงของพระเจ้าที่ผ่านมาทางโมเสส คำนี้ “ในเวลาของพระเจ้า” หากเราเองมั่นใจว่า เราทำทุกอย่างตามพระประสงค์ของพระเจ้า เราไม่ได้ทำอะไรตามอำเภอใจ เราก็ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะพระเจ้าจะเป็นผู้ปกป้องเรา แต่หากเราอยู่ฝ่ายตรงข้ามพระเจ้า ต่อต้าน หมิ่นประมาทพระเจ้า ขอพระวิญญาณของพระเจ้าจะนำให้เราที่จะรีบกลับใจมาหาพระองค์เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราน่ากลัวมาก และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่จะเป็นพระสงค์ของพระเจ้า ขอให้เราทำทุกสิ่งด้วยความเชื่อฟังและด้วยความมั่นใจว่าสิ่งนั้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ถ้าเป็นอย่างนั้น เราจะอยู่ในการปกป้องดูแลของพระเจ้าแน่นอน
    วุฒิ วงศ์สรรเสริญ


    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • หากคุณกำลังกังวลกับหลายๆเรื่องในชีวิตที่หาทางออกไม่ได้ ขอให้มั่นใจว่าทุกอย่างเป็นไปได้ในพระองค์ครับ

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • คุยเคยไหม? เวลาโดนยืมตังค์ ทั้งที่รู้เลยว่าโอกาสได้รับคืนมีต่ำมาก แต่เราก็รู้สึกผิดที่จะไม่ให้ยืม ลองมาฟังมุมมองของ อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์กับเรื่องนี้กันครับ

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • พระธรรมนำชีวิต
    ตอน วิธีจัดการกับความโกรธ Ep.882

    นอกจากโคราห์ที่พากลุ่มคนมาต่อต้านโมเสสแล้ว ยังมีดาธานและอาบีรัมจากเผ่ารูเบน ที่เป็นแก่นนำในการต่อต้านครั้งนี้

    ”โมเสสส่งคนไปเรียกดาธานและอาบีรัมบุตรเอลีอับ แต่เขาทั้งสองว่า “เราไม่ไป การที่ท่านนำเราออกจากแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์เพื่อจะฆ่าเสียในถิ่นทุรกันดาร และเพื่อท่านจะเป็นเจ้านายเหนือเราด้วยนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยอยู่หรือ? ยิ่งกว่านั้น ท่านก็ไม่ได้นำเราเข้าไปยังแผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ ทั้งไม่ได้ให้เรารับที่นาหรือสวนองุ่นเป็นมรดก ท่านจะควักตาคนเหล่านี้ออกหรือ? เราไม่ขึ้นไป”“
    ‭‭กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭12‬-‭14‬

    นอกจากจะปฎิเสธที่จะมาพบโมเสสแล้ว ดาธานและอาบีรัมยังมีคำพูดที่กระตุ้นอารมณ์โกรธให้โมเสสอีก ในความขัดแย้งทุกครั้งเราจะเจอคนที่ยั่วโมโห พวกเขาจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำให้เราหล่นจากจุดที่เราต้องเป็น ความโกรธเป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้นเมื่อโดนยั่วยุ แต่เราจัดการกับความโกรธที่มีนั้นอย่างไร

    ”โมเสสโกรธมากและกราบทูลพระยาห์เวห์ว่า “ขออย่าทรงรับเครื่องบูชาของพวกเขา ข้าพระองค์ไม่ได้เอาลาของเขามาแม้แต่ตัวเดียว และข้าพระองค์ไม่ได้ทำร้ายพวกเขาสักคนเดียว”“ กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭15‬

    วิธีจัดการกับความโกรธของโมเสสนั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย เมื่อโกรธโมเสสก็มาอธิษฐานพูดคุยกับพระเจ้า สำหรับเราเมื่อโกรธเราทำอย่างไร วิธีรับมือกับความโกรธของเราเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยไหม

    ”“จะโกรธก็โกรธได้ แต่อย่าทำบาป” อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่ อย่าให้โอกาสแก่มาร“
    ‭‭เอเฟซัส‬ ‭4‬:‭26‬-‭27‬

    อ.เปาโลได้หยิบพระธรรมสดุดีบทที่ 4 มาพูดถึงวิธีจัดการความโกรธในแบบของมนุษย์ใหม่ที่เชื่อและบังเกิดใหม่ในพระเยซู เมื่อเราย้อนกลับไปดูในพระธรรมสดุดีแล้ว ฉบับ 2011 ใช้ความว่า “เมื่อถูกยั่วยุ อย่าทำบาป” เมื่อถูกยั่วยุให้โกรธอย่าทำบาป ด้วยการเก็บความโกรธหมักหมมของเสียนี้ไว้ในใจ คำว่า “อย่าให้ตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่” ก็ไม่ได้หมายความตามตัวอักษร แต่กำลังหมายถึงช่วงเวลาที่เราเก็บความโกรธไว้ในใจ ขอพระเจ้าเมตตาเราที่เราเองจะทำแบบโมเสส คือมอบเรื่องนั้นให้พระเจ้าเป็นผู้จัดการ แม้ว่าโมเสสอาจจะระบุวิธีที่อยากให้พระเจ้าจัดการคนเหล่านั้นที่มาขัดแย้งกับเขา ในมุมนี้ผมคิดว่ามันคือการที่ได้ระบายความรู้สึกออกมา

    ”ประชาชนเอ๋ย จงวางใจในพระองค์ตลอดเวลา จงระบายความในใจของท่านต่อพระองค์ พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยของเรา“
    สดุดี‬ ‭62‬:‭8‬ ‭

    ขอพระเจ้านำให้เราวางใจพระเจ้าในทุกสถานการณ์ ขอพวกเราจะฝึกที่จะระบายความในใจของเราต่อพระเจ้าเพื่อเราจะไม่หมักหมมของเสียเหล่านี้ไว้ในใจนาน โกรธหรือของเสียเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้พระเจ้าไม่ฟังและไม่ตอบคำอธิษฐานของเรา ขอให้เรารีบจัดการความโกรธของเราด้วยการอธิษฐานพูดคุยกับพระเจ้า และนี่คือการปิดประตูของความผิดพลาดที่จะไปทำในสิ่งที่ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้า พระธรรมเอเฟซัสที่ใช้คำว่า ความโกรธเป็นช่องทางนึงที่จะให้โอกาสแก่มารที่จะมาแทรกแทรงเข้ามาในความคิดของเรา แล้วนำเราไปสู่การลงมือที่จะทำบาป สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราทุกคนทำได้เพราะว่าเราเป็นคนที่บังเกิดใหม่ในพระเยซูแล้ว เรารับฐานะการเป็นลูกของพระเจ้า เราจึงจะคิดและลงมือทำทุกอย่างตามแบบวิสัยของพ่อของเรา คือทำตามพระทัยของพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่สูงสุด ผู้มีสิทธิอำนาจในทุกสิ่ง
    วุฒิ วงศ์สรรเสริญ

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี3(323)

    ผู้นมัสการ และ ผู้นำนมัสการ ที่พระเจ้าแสวงหา!

    ”แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือ
    เมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริงจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง
    เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์“
    ‭‭ ~ยอห์น‬ ‭4‬:‭23‬ ‭THSV11‬‬
    ”Yet a time is coming and has now come when the true worshipers
    will worship the Father in the Spirit and in truth,
    for they are the kind of worshipers the Father seeks.“
    ‭‭ ~John‬ ‭4‬:‭23‬ ‭NIV‬‬

    เราทุกคนคือ ผู้นมัสการพระเจ้า!

    พระเจ้าแสวงหา“คนที่จะนมัสการพระเจ้า”ด้วยจิตวิญญาณและความจริง
    คริสตจักรก็แสวงหา“คนที่จะนำนมัสการพระเจ้า”ด้วยจิตวิญญาณและความจริงเช่นเดียวกัน
    แล้วเราจะทำอย่างไร จึงจะได้คนนำนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริงเช่นนั้น
    มาให้คริสตจักร?

    ต่อไปนี้เป็นแนวทางในการที่จะได้“ผู้นำนมัสการ”อย่างที่คริสตจักรต้องการ นั่นคือ

    1.อธิษฐาน ~ขอพระเจ้าประทานคนนำนมัสการเช่นนั้นให้แก่คริสตจักร
    2.ออกหา ~ค้นหาคนนำนมัสการแบบที่ใช่นั้นผ่านช่องทางต่างๆ
    3.อบรม~ฝึกฝนคนที่คิดว่าใช่(แต่อาจไม่ใช่)ทั้งด้านทางธรรมและเทคนิควิธี เพื่อทำหน้าที่ได้
    4.อดเปรี้ยวไว้กินหวาน~ไม่ด่วนแต่งตั้งผู้ใดให้นำ แต่ให้ลองงานจนกว่าจะแน่ใจว่าทำได้จริง
    5.โอกาสให้ลงมือทำ~เมื่อเวลาและโอกาสมาถึง ก็ให้คนที่เราฝึกนั้นได้ลงมือทำจริงๆ
    6.อภัย/ออมชอม~อดทนต่อความไม่ชำนาญในการนำของเขาและยกโทษให้เมื่อผิดพลาด
    7.อุปถัมภ์/ค้ำจุน~ให้โอกาสอีกครั้งเสมอ และช่วยเหลือจนกว่าเขาจะเป็นผู้นำนมัสการที่ดีขึ้น
    8.อะไหล่พร้อม~เตรียมทีมสำรองสลับกันทำหน้าที่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นภาระหนักเกินไปแก่เขา
    9.อัพเกรด~ต้องเตรียมแผนและงบส่งเสริมพัฒนายกระดับความรู้และทักษะต่อเนื่องให้เขา
    10.อภิบาล~ต้องเอาใจใส่เลี้ยงดูเขาให้เติบโตทุกด้านรวมทั้งหมด
    1).การสร้างวินัย~ป้องกันไม่ให้เขาทำผิด
    2).การลงวินัย ~แก้ไขเมื่อเขาทำผิด

    พี่น้องที่รัก เมื่อ
    1.คริสตจักร ขอ หา พบ ฝึก สร้าง เสริม และพัฒนาผู้นำนมัสการได้ตามที่ต้องการแล้ว
    2.คริสตจักรต้องให้ผู้นำที่มีอยู่นั้น สร้างผู้นำรุ่นต่อๆไป แบบไม่ขาดตอน
    เพื่อคริสตจักรจะมีคน “ อ า ส า ”
    ที่จะร่วมรับใช้ในทีมนมัสการของคริสตจักรเพิ่มมากขึ้นให้เพียงพอกับ
    1).ความจำเป็น
    2).ความต้องการ ของ
    ก.คริสตจักรในปัจจุบันที่มีอยู่ และ
    ข.คริสตจักรใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต

    อย่างไรก็ตาม”ผู้นำนมัสการ“ทุกคนต้องตระหนักไว้เสมอว่า
    เป้าหมายของเขาไม่ใช่เป็นเพียงผู้นำนมัสการเท่านั้น
    ตัวเขาเองก็ต้องเป็นผู้นมัสการพระเจ้าร่วมกับผู้นมัสการคนอื่นๆด้วยเช่นกัน
    เพียงแต่ว่าตัวเขายังมีหน้าที่ช่วยนำและอำนวยความสะดวกให้คนอื่นๆได้นมัสการพระเจ้า
    1).อย่างถูกต้อง และ
    2).อย่างเต็มที่
    ก.ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำจิตวิญญาณของเขาให้นมัสการพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ด้วยพระวจนะแห่งความจริงตามที่ปรากฏอยู่ในพระคริสตธรรมคัมภีร์
    ข.ไม่ใช่ตามอารมณ์ หรือความคิดเห็นของ
    ก).ผู้นำและ
    ข).ผู้มานมัสการ
    โดยขัดกับความจริงที่เปิดเผยไว้แล้วอย่างชัดเจน จนหลงทางในขณะที่กำลังนมัสการ!

    พี่น้องที่รัก
    ทั้งผู้มานมัสการพระเจ้า และผู้นำนมัสการที่ดี จะต้องเตรียมตัว ทั้ง ทางกาย จิตและวิญญาณให้พร้อมก่อนไปโบสถ์
    เหมือนดังที่ Jerry Kerns กล่าวไว้ว่า

    “ทั้งตัวบุคคล ด้วยทุกการสัมผัสรับรู้ ด้วยทั้งความคิดและร่างกาย
    จำเป็นที่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนมัสการอย่างแท้จริง!“
    (The whole person, with all his senses, with both mind and body,
    needs to be involved in genuine worship.)

    แล้วการไปนมัสการพระเจ้าที่โบสถ์จะเปลี่ยนแปลง ความคิด อารมณ์ความรู้สึก ทัศนคติของเราและส่งผลต่อการดำเนินชีวิต การทำงานอาชีพและการรับใช้ของเราไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากการนมัสการนั้นในวันอาทิตย์นั้น รวมทั้งก่อนและหลังวันอาทิตย์ด้วยเช่นกัน
    เหมือนที่ Tim Hughes กล่าวไว้ว่า

    “ การนมัสการจะต้อง
    มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง
    มีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้นำและ
    มีการตอบสนองต่อพระเจ้าพระบิดา
    เกิดความสัมพันธ์สนิทชิดใกล้และการปฏิบัติรับใช้ และ
    นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นกว่าเดิมอยู่เสมอ!”
    (Worship must be - Christ centered, Holy Spirit led, a Response to the Father, about Intimacy and Service and always lead to Transformation!)

    …พี่น้อง เห็นด้วยไหมครับ?

    ~~~~~~~~~~~~~~
    ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
    18กุมภาพันธ์2024
    #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
    #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • พระธรรมนำชีวิต
    ตอน วิธีจัดการความขัดแย้ง Ep.881

    หากเราเองถูกต่อต้านจากกลุ่มคนที่อยู่กับเรา ความรู้สึกเสียใจน่าจะเกิดขึ้นไม่น้อยเลยในใจของเราเลย เราเองจะจัดการกับเรื่องราวแบบนี้อย่างไรเพื่อให้เราจะกลับมาเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า เราไปดูด้วยกันต่อจากพระธรรมกันดารวิถี

    ”เมื่อโมเสสได้ยินแล้วก็ซบหน้าลง ท่านจึงพูดกับโคราห์และพรรคพวกของเขาว่า “พรุ่งนี้เช้าพระยาห์เวห์จะทรงสำแดงให้รู้ว่า ใครเป็นของพระองค์และใครเป็นคนบริสุทธิ์ และจะทรงให้คนนั้นเข้าใกล้พระองค์ ใครคือคนที่พระองค์ทรงเลือก พระองค์จะโปรดให้เขาเข้าไปใกล้พระองค์ จงทำอย่างนี้ ให้โคราห์และพรรคพวกของเขานำกระถางไฟมา จงเอาไฟใส่ลงไปพร้อมกับเครื่องหอมเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ในวันพรุ่งนี้ คนที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกก็จะเป็นคนบริสุทธิ์ บุตรของเลวีเอ๋ย พวกท่านทำเกินเลยไปแล้ว”
    กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭4‬-‭7‬ ‭

    หลายครั้งที่เราเอาความรู้สึกเสียใจมานำหน้าความขัดแย้งทุกอย่าง จนหลงประเด็นว่าเราขัดแย้งกันเรื่องอะไร เมื่อโกรธเสียใจก็เก็บไว้ในใจคนเดียวไม่ยอมพูดกับบุคคลที่ขัดแย้งกันในเรื่องนั้นๆ โมเสสพบและพูดคุยกับโคราห์ ผู้เป็นเลวี โมเสสไม่เอาความรู้สึกมานำหน้า เขายังคงอยู่ในประเด็นความขัดแย้ง คือกลุ่มของโคราห์คิดว่าโมเสสกับอาโรนยกตัวเองเป็นคนปกครองคนอิสราเอลทั้งหมด โมเสสขอให้พระเจ้าเป็นผู้ตัดสินว่าพระเจ้าเลือกใคร หากเป็นเราเมื่อร้อนใจก็น่าจะอยากจัดการให้มันจบๆแบบเร็วๆ แต่โมเสสรอคอยถึงพรุ่งนี้ ขอให้เราเองก็จะจัดการด้วยการรอคอยเวลาที่เหมาะสม คือการรอคอยเวลาของพระเจ้า และจัดการปัญหาทุกอย่างด้วยวิธีการของพระเจ้าตามพระวจนะของพระองค์

    ”และโมเสสพูดกับโคราห์ว่า “พวกท่านผู้เป็นบุตรของเลวีจงฟัง การที่พระเจ้าของอิสราเอลแยกพวกท่านออกจากชุมนุมชนอิสราเอล เพื่อนำพวกท่านให้มาใกล้พระองค์ ให้ทำหน้าที่ในพลับพลาของพระยาห์เวห์ และให้มายืนอยู่ต่อหน้าชุมนุมชนเพื่อปรนนิบัติพวกเขานั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับท่านหรือ? พระองค์ทรงนำท่านและพี่น้องทั้งหมดของท่าน คือบุตรหลานของเลวีมาใกล้พระองค์ และท่านทั้งหลายยังแสวงหาตำแหน่งปุโรหิตด้วยอีกหรือ? เพราะฉะนั้นท่านและพรรคพวกของท่านประชุมกันก็เป็นการต่อสู้พระยาห์เวห์ ส่วนอาโรน เขาเป็นใครเล่าที่ท่านบ่นว่าเขา?”“
    ‭‭กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭8‬-‭11‬ ‭

    โมเสสก็พูดเตือนสติกับโคราห์ให้เขาเห็นว่าตัวเองก็ได้รับสิทธิอำนาจพิเศษแล้วเหมือนกัน โมเสสใช้คำถามเพื่อเตือนสติและชี้ให้โคราห์เห็นคุณค่าในตัวของเขาเอง “เพื่อนำพวกท่านให้มาใกล้พระองค์ ให้ทำหน้าที่ในพลับพลาของพระยาห์เวห์ และให้มายืนอยู่ต่อหน้าชุมนุมชนเพื่อปรนนิบัติพวกเขานั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับท่านหรือ?”อีกคำถาม “บุตรหลานของเลวีมาใกล้พระองค์ และท่านทั้งหลายยังแสวงหาตำแหน่งปุโรหิตด้วยอีกหรือ?” คนส่วนใหญ่จะมุ่งเป้าไปที่งานและผลสำเร็จ เราอาจจะมองงานบางอย่างที่เราอยากจะทำสำคัญกว่างานที่เราได้รับมอบหมาย ขอให้เราจะกลับไปที่คำว่าสิทธิอำนาจ สิทธิอำนาจสูงสุดทุกอย่างขึ้นอยู่กับพระเจ้า ในมุมมองของผม ส่วนงานต่างๆล้วนแล้วแต่สำคัญเท่ากันหมด ในมุมของงานหลังบ้านที่ไม่มีใครเห็น ผมอยากให้กำลังว่าแม้คนจะมองไม่เห็น แต่พระเจ้าเห็น ขอให้เราทำหน้าที่นั้นต่อไปด้วยความสุขที่ได้ปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า

    ”ไม่ว่าพวกท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนทำต่อมนุษย์“ โคโลสี‬ ‭3‬:‭23‬ ‭

    ขอให้กำลังใจพวกเราทุกคนทั้งงานเบื้องหลัง เบื้องหน้าว่า เราต้องทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปอย่าหยุด ทำอย่างสุดกำลัง ทำให้ดีที่สุด ทำให้สุดฝีมือ อย่าคิดว่าทำให้คนเห็น เพราะว่าพระเจ้าเห็นแรงจูงใจทุกอย่างที่เราทำ พระเจ้าจะอวยพระพรคนที่รับผิดชอบหน้าที่อย่างสัตย์ซื่อ สำหรับผู้นำที่อยู่เบื้องหน้า บางครั้งเราเองก็ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกของทีมงานที่อยู่รอบตัวเรา อยากให้ข้อคิดผู้นำว่า ให้เราสนใจ ใส่ใจความรู้สึกของผู้คนที่อยู่รอบตัวเรามากขึ้น ให้เราฝึกที่จะชื่นชมพวกเขาเมื่อเขาทำงานของเขาได้ดี อยากให้เราทั้งเบื้องหลัง เบื้องหน้าจะคิดแบบนี้เสมอว่า ชมดังๆ เตือนเบาๆ หากเป็นการชื่นชมให้เราชมในที่สารธารณะ เพราะนั่นเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ทุกคน แต่หากเตือนเราต้องทำตามพระคัมภีร์คือมาเตือนกันสองต่อสอง ขอพระเจ้าเมตตานำเราที่จะไม่พาตัวเองเข้าไปสู่ความขัดแย้ง เพราะความขัดแย้งเป็นสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชัง แต่หากมีการขัดแย้งเกิดขึ้นท่ามกลางครอบครัว คริสตจักรหรือชุมชนที่เรามีส่วนอยู่ ขอเราเองจะจัดการสิ่งนั้นด้วยวิธีการและสติปัญญาที่มาจากพระเจ้า
    วุฒิ วงศ์สรรเสริญ

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message



  • คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี3(322)

    ฤดูกาลแห่งความรัก
    (Seasons of love)

    ”มีวาระรัก และวาระเกลียด
    มีวาระสงคราม และวาระสันติ“
    ‭‭ ~ปัญญาจารย์‬ ‭3‬:‭8‬ ‭THSV11‬‬
    ”a time to love and a time to hate,
    a time for war and a time for peace.“
    ‭‭ ~Ecclesiastes‬ ‭3‬:‭8‬ ‭NIV‬‬

    “ฤดูรัก สดใส เบ่งบานสุข
    จะนั่งลุก มองไป ไฉไลหมด
    แต่ใช่ว่า จะรอด เหมือนดังบท
    อาจรันทด ไม่สุข ดังที่หวัง

    รักแท้ หยั่งลึก ในพระเจ้า
    รักสองเรา ยืนยง ถ้าเริ่มถูก
    รักรื้อทิ้ง อุปสรรค ก่อนเริ่มปลูก
    รักต้องผูก ยึดแน่น ด้วยศรัทธา

    รักกับใคร โปร่งใส ไม่ต้องแอบ
    รักเจ็บแสบ หากไร้ คำปรึกษา
    รักไม่รอด หากเปี่ยม ด้วยมารยา
    รักรักษา ยืนยาว ด้วยซื่อตรง

    รักพระเจ้า ทำให้ ชีวิตพอ
    รักแม่พ่อ เป็นฐาน ครอบครัวแกร่ง
    รักคู่ครอง พัฒนา บ้านแข็งแรง
    พร้อมเปลี่ยนแปลง เคียงข้าง ไปด้วยกัน

    รักบางคู่ อาจพบ มรสุม
    ทุกข์กลุ้มรุม กัดกิน ชีวิตพัง
    เกือบทุกคู่ (อาจ)เกลียดกัน แทบสิ้นหวัง
    ต้องเหนี่ยวรั้ง พึ่งพระเจ้า แล้วไปต่อ

    รักทุกคู่ มีปัญหา สารพัด
    บางคู่กัด เพราะทะเลาะ กันไม่เป็น
    จึงปวดร้าว เสียหาย อย่างเห็นเห็น
    จะรักเป็น เมื่อรัก พระเจ้าก่อน

    รักที่แท้ เรียกว่า อากาเป้
    ไม่ซวนเซ ป่วนเป๋ รักมั่นคง
    รักพระคริสต์ รักเรา อยู่ยืนยง
    ให้พระองค์ นำเรา จะปลอดภัย!

    แม้รักจบ หมดสิ้น ให้อภัย
    ยังก้าวไป กับพระเจ้า ไม่สิ้นหวัง
    เริ่มต้นใหม่ ให้ชีวิต มีพลัง
    พระเจ้ายัง เคียงคู่ ชูใจเรา!

    รักข่าวดี จงประกาศ ช่วยคนรอด
    รักเยี่ยมยอด เกิดได้ อยู่เสมอ
    รักพระเจ้า มีพร้อม เพื่อฉันเธอ
    ให้คนเจอ รักเช่นนี้ ในพระองค์!

    รักพระเจ้า มากขึ้น สุขเสมอ
    จะเจอะเจอ อะไร ก็ไม่หวั่น
    มีพระเจ้า อะไร ก็ไม่ยั่น
    แสนตื้นตัน พระคุณ ตลอดไป

    รักเหมือนฝน ตกพรำ ยามหน้าแล้ง
    รักย้อนแย้ง สับสน จนป่วนปั่น
    เหมือนลมหนาว เมษา ไม่คาดฝัน
    ไม่มีวัน เข้าใจ ความหมายรัก

    จะเข้าใจ ความรัก ให้กระจ่าง
    สุขสว่าง ชัดแจ้ง ในความหมาย
    ต้องสัมผัส รักพระเจ้า เต็มหัวใจ
    ในทันใด กระจ่าง ขึ้นทันที! “


    พี่น้องที่รัก
    โลกนี้ มีฤดูกาลที่แตกต่างกัน
    แต่ให้เรามาร่วมกันทำให้ “ความรัก”
    ดำรงอยู่ในทุกฤดูกาล!

    …จะดีไหม?


    ข้อคิดปิดท้าย:

    # รักที่เริ่มต้นหวานแหววด้วย feeling หรือ like (ความชอบ)จะหมดไวจบไว อย่างน่าเสียดาย แต่
    รักที่จะยังคงดำรงต่อไป และจบสวย จะต้องเป็นรักแบบ willing หรือ Love (ความรัก)ที่ยั่งยืน


    ~~~~~~~~~~~~~~
    ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
    17กุมภาพันธ์2024
    #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
    #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี






    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • พระธรรมนำชีวิต
    ตอน ที่มาของอำนาจที่อยากมี Ep.880

    สิทธิอำนาจ มีความหมายตามพจนานุกรมว่า อำนาจที่ทำให้สมาชิกในสังคมยินยอมเชื่อฟังคำสั่งของผู้ใช้อำนาจ สำหรับพวกเราผู้เชื่อในพระเยซู เราทุกคนเชื่อว่าสิทธิอำนาจทั้งหมดเป็นของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดแต่เพียงผู้เดียว พวกเรามักไม่ค่อยมีข้อสงสัยในเรื่องนี้ แต่เราอาจจะเคยมีข้อกังขาหรือสงสัยว่า สิทธิอำนาจของพระเจ้าที่พระองค์มอบไว้ให้มนุษย์คนนี้หรือผู้นำคนนี้ทั้งในคริสตจักร ในองค์กรณ์หรือชุมชนที่เราอาศัยอยู่นี้พระเจ้าประทานให้เขาจริงๆเหรอ เรื่องราวจากพระธรรมกันดารวิถีในช่วงนี้เป็นเรื่องราวความดื้อรั้นของคนอิสราเอลที่ไม่ยอมรับและต่อต้าน ท้าทายสิทธิอำนาจของพระเจ้าที่พระองค์ประทานให้โมเสสและอาโรน

    ”โคราห์บุตรอิสฮาร์ ผู้เป็นบุตรโคฮาท ผู้เป็นบุตรเลวีพาคนไปพร้อมกับดาธาน อาบีรัมบุตรเอลีอับ และโอนบุตรเปเลทซึ่งเป็นบุตรรูเบน แล้วเริ่มต่อต้านโมเสส พร้อมกับผู้ชายอิสราเอลจำนวน 250 คน ซึ่งเป็นผู้นำของชุมนุมชนที่เลือกมาจากที่ประชุม และเป็นคนมีชื่อเสียง“
    กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭1‬-‭2‬ ‭

    สิทธิอำนาจสูงสุดเป็นของพระเจ้าเมื่อพระองค์ประทานให้มนุษย์ สิ่งที่เราพบคือพระเจ้าไม่ได้ประทานให้แต่ละคนมีสิทธิอำนาจเท่าๆกัน นี่คือสูตรสำเร็จของการบริหารและการปกครอง คนที่พระเจ้าประทานสิทธิอำนาจสูงกว่าคนอื่นแบบโมเสสก็อยู่ไม่ได้ง่าย เขาถูกท้าทายสิทธิอำนาจของเขาจากพี่น้องของตัวเองคือ มิเรียมกับอาโรน แต่พระเจ้าทรงทำให้มิเรียมเป็นโรคเรื้อน วันนี้โมเสสกับอาโรนถูกท้าทายสิทธิอำนาจจากคนในตระกูลเลวีคือจากตระกูลโคฮาทรุ่นที่3 คนนี้มีชื่อว่า โคราห์ ซึ่งเขารวบรวมผู้นำชุมชนมาต่อต้านโมเสสถึง 250 คน ซึ่งแน่นอนพวกเขาก็ได้รับสิทธิอำนาจจากพระเจ้าด้วย แต่ไม่เท่าโมเสส พวกเขารวมตัวกันมาท้าทายสิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้กับโมเสสและอาโรน

    ”เขาทั้งหลายมาชุมนุมกันต่อต้านโมเสสและอาโรน กล่าวกับท่านทั้งสองว่า “ท่านทำเกินเหตุ เพราะว่าชุมนุมชนทั้งหมดก็บริสุทธิ์ทุกๆ คน และพระยาห์เวห์สถิตท่ามกลางพวกเขา ทำไมท่านทั้งสองจึงผยองขึ้นเหนือที่ประชุมของพระยาห์เวห์?”“
    ‭‭กันดารวิถี‬ ‭16‬:‭3‬

    สิ่งที่พวกเขานำมาต่อต้านนั้น พวกเขารู้สึกว่าทำไมโมเสสสั่งทุกอย่างได้ สิ่งนี้เราต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นคือพระเจ้าทรงเป็นเจ้าของสิทธิอำนาจทั้งหมด พระองค์จะประทานให้ใครก็ได้ ขอให้เราจะพอใจกับสิ่งที่พระเจ้าประทานให้กับเรา สิ่งที่พระเจ้าประทานให้นั้นมันเป็นความพิเศษในตัวบุคคล บุคคลคนหนึ่ง ซึ่งถ้าเราดูจากภาพกว้างๆของโมเสสแล้ว สิทธิอำนาจที่พระเจ้าให้กับเขานั้นก็ไม่ได้ใช้เวลาสั้นๆที่จะทำให้เขาพร้อม แล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่โมเสสจะมาถึงจุดๆนี้ ในวัยแรกเกิดถูกคำสั่งให้เอาโยนทิ้งน้ำเพื่อลดจำนวนคนอิสราเอลด้วยการฆ่าเด็กทารก แต่พระเจ้าประทานแม่และพี่สาวที่ฉลาดสุดยอด สิ่งที่มนุษย์ทำไม่ได้คือ พระเจ้านำธิดาของกษัตริย์ฟาโรห์มาพบเขา ในวัยเด็กของโมเสสเขาได้รับการดูแลเอง อบรมเลี้ยงดูจากครอบครัวของตัวเอง นั่นทำให้โมเสสจึงรู้จักพระเจ้า รู้ว่าตัวเองเป็นใคร เขาจึงรักพระเจ้าและคนอิสราเอล แต่โมเสสได้รับการศึกษาจากคนอียิปต์ที่ฉลาดหลักแหลมที่สุดของโลกเวลานั้นในฐานะของเจ้าชาย แต่เพราะความรักที่มีให้พระเจ้าและพี่น้องร่วมชาติ รวมถึงบุคลิคส่วนตัวที่เป็นคนเจ้าอารมณ์จึงฆ่าทหารที่ข่มเหงพี่น้องร่วมชาติ โมเสสจึงต้องหนีไป เขาต้องเป็นคนเลี้ยงสัตว์ จนอายุ 80 ปี พระเจ้าก็เรียกเขาและประทานสิทธิอำนาจให้เขามารับใช้พระองค์ พระเจ้าไม่ได้ประทานสิทธิอำนาจให้ใครแบบมั่วๆ แต่พระเจ้าทรงเฝ้าดูชีวิตของโมเสสอยู่ สิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้มิเรียมกับอาโรน ในวันที่เขาทั้งสองต่อต้านท้าทายสิทธิอำนาจของพระเจ้าที่ประทานให้โมเสส พระเจ้าตรัสว่า

    ”โมเสสเป็นคนถ่อมใจยิ่งกว่าคนทั้งหมดบนพื้นแผ่นดิน“ กันดารวิถี‬ ‭12‬:‭3‬

    พระเจ้าเลือกสรรคนของพระองค์โดยให้วันเวลาและเหตุการณ์ต่างๆหล่อหลอมให้โมเสสเป็นคนที่ถ่อมใจกว่าใครๆ ในความเห็นของผมนี่คือที่มาของสิทธิอำนาจจากพระเจ้า การเป็นผู้นำที่มีอำนาจนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนอยากจะมี เพราะอำนาจคือการจำกัดหรือบังคับให้ใครทำตาม เราอาจจะฝึกฝนตัวเอง หรือทำทุกวิธีทางจนสามารถสร้างอำนาจเพื่อจะบังคับให้คนทำตามใจปราถนาของตัวเองให้ได้ แต่สิทธิอำนาจของพระเจ้านั้นแตกต่างออกไป คือเราจะใช้สิทธิอำนาจนั้นตามพระทัยของพระเจ้า ไม่ใช่ใช้เพื่อใจตัวเราเอง สิทธิอำนาจเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้กับคนที่พระเจ้าโปรดปรานซึ่งแม้ว่าสิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้จะถูกท้าทายจากคนที่ได้รับสิทธิ์นั้นน้อยกว่าเสมอ แต่ถ้าเราดูตามกันต่อไปเราจะพบว่า ถ้าพระเจ้าประทานสิทธิอำนาจใคร เราไม่ต้องกลัวหรือหวั่นไหวเพราะพระเจ้าจะเป็นคนดูแลชีวิตของเรา จะปกป้องคุ้มครองเราและจัดการคนที่ต่อต้านสิทธิ์ที่เราได้รับจากพระเจ้าเอง และสำหรับพวกเราที่อยากจะมีสิทธิ์นั้นมากขึ้นๆ ขอให้เรารู้ว่าสิทธิ์นั้นมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่ขึ้นอยู่กับพระเจ้าพระผู้สร้าง ผู้มีสิทธิอำนาจสูงสุด ขอให้เราจะเริ่มต้นจากการดูแลชีวิตของเราให้เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าด้วยการเชื่อฟังทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าทุกประการ
    วุฒิ วงศ์สรรเสริญ


    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • ก่อนเข้านอนคืนนี้ อ.วาระ มีชูธน จาก คริสตจักรเมืองไทย อยากขอชวนคุณมาพักสงบให้ชีวิตได้หยุดนิ่ง แล้วพักพิงในพระเจ้าไปด้วยกัน

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี3(321)

    มีมากขึ้น ก็จงใจกว้างมากขึ้น!

    ”โดยทรงให้ท่านทั้งหลายมั่งคั่งขึ้น
    ในทุกสิ่ง เพื่อบริจาคด้วยใจกว้าง
    ขวางอยู่เสมอ และจะทำให้เกิด
    การขอบพระคุณพระเจ้าผ่านเรา!“
    ~‭‭2 โครินธ์‬ ‭9‬:‭11‬ ‭THSV11‬‬
    ”You will be enriched in every way
    so that you can be generous on every occasion,
    and through us your generosity will result in thanksgiving to God.“
    ~‭‭2 Corinthians‬ ‭9‬:‭11‬ ‭NIV‬‬

    คำว่า “ใจกว้างขวาง” ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า “generous”หมายความว่า

    ”แสดงความพร้อมที่จะให้บางสิ่ง เช่น เงินทองหรือเวลามากกว่าที่จำเป็นหรือที่คาดหวังไว้“
    (showing a readiness to give more of something, as money or time, than is strictly necessary or expected.)

    พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่มีพระทัยเกว้างขวาง
    คนของพระเจ้าก็สมควรมีใจกว้างขวาง
    เช่นเดียวกับพระเจ้าของเขา!

    ในพระคัมภีร์ อาจารย์ เปาโล สอนว่า

    “1.คนที่หว่านเพียงเล็กน้อยก็จะเก็บเกี่ยวได้เพียงเล็กน้อย
    2.คนที่หว่านมากก็จะเก็บเกี่ยวได้มาก
    3.เราแต่ละคนจงให้ตามที่คิดไว้ในใจ
    1).ไม่ใช่ให้ด้วยความเสียดาย
    2).ไม่ใช่ให้ด้วยความจำใจ
    เพราะว่า
    ก.พระเจ้าทรงรักคนที่ให้ด้วยใจยินดี
    ข.พระเจ้าสามารถประทานพรทุก
    อย่างแก่เราทั้งหลายอย่างเหลือล้น
    เพื่อว่าเมื่อมีทุกอย่างเพียงพออยู่เสมอ
    เรายังจะมีเหลือล้นสำหรับการดีทุก
    อย่างด้วย
    ตามที่เขียนไว้ว่า
    “เขาแจกจ่าย
    เขาให้แก่บรรดาคนยากจน
    ความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่
    เป็นนิตย์”
    ค.พระเจ้าผู้ประทานเมล็ดพืชแก่
    คนที่หว่าน และอาหารแก่คนที่กิน
    ก)จะประทานเมล็ดพืชแก่พวกเรา
    ข).จะทรงเพิ่มพูนเมล็ดพืชของเรา
    ค).จะทรงให้การเก็บเกี่ยวแห่งความ
    ชอบธรรมของเราเจริญขึ้น
    ง.พระเจ้าจะทรงให้เราทั้งหลายมั่งคั่ง
    ขึ้นในทุกสิ่ง เพื่อบริจาคด้วยใจกว้าง
    ขวางอยู่เสมอ
    จ.พระเจ้าจะทำให้เกิดการขอบพระคุณ
    พระเจ้าผ่านเรา เพราะการปรนนิบัติ
    ในงานรับใช้นี้
    ก).เป็นการจัดหาให้กับธรรมิกชน
    ที่ขัดสน
    ข).เป็นเหตุทำให้มีการขอบพระคุณ
    พระเจ้าอย่างมากมายเหลือล้น
    ค).เป็นเหตที่ทำให้พวกเขาจะ
    สรรเสริญพระเจ้า
    ~ในเรื่องที่เราทั้งหลายยอมเชื่อฟัง
    สมกับที่กล่าวยอมรับข่าวประเสริฐ
    ของพระคริสต์ และ
    ~ ในเรื่องที่เราแบ่งปันกับพวกเขา
    และทุกคนด้วยใจกว้างขวาง
    ง).เป็นเหตุให้เขาวิงวอนขอเพื่อเรา
    ทั้งหลายและคิดถึงเรา
    เพราะเหตุพระคุณของพระเจ้าที่อยู่
    ในเราอย่างมากมาย
    ขอขอบพระคุณพระเจ้า เพราะของ
    ประทานที่เกินความคาดคิดซึ่ง
    พระองค์ประทานนั้น“
    ~‭‭2 โครินธ์‬ ‭9‬:‭6‬-‭15‬ ‭THSV11‬‬

    Suze Orman กล่าวว่า

    “ความใจกว้างขวางที่แท้จริง คือ การมอบถวายเครื่องบูชาออกไป
    อย่างมีอิสระและออกมาจากความรักที่บริสุทธิ์
    ไม่มีเงื่อนไขและไม่คาดหวังอะไรกลับคืนมา!“
    (True generosity is an offering; given freely and out of pure love. No strings attached. No expectations.)

    พี่น้องที่รัก
    1.คุณเคยพบคนใจกว้าง แบบที่คุณอดไม่ได้ที่จะขอบคุณพระเจ้าเพราะสิ่งที่
    เขาให้ หรือ สิ่งที่เขาทำเพื่อคุณ หรือเพื่อคนอื่น บ้างหรือไม่?
    (เขาหรือเธอเป็นใคร? ทำอะไร? บอกได้ไหม?)
    2.คุณเคยแสดงความใจกว้างขวางต่อผู้อื่น ในเรื่องอะไร ที่ทำให้คนบางคน หรือ คนหลายคนรู้สึกขอบคุณพระเจ้าเพราะสิ่งที่คุณทำหรือให้บ้างหรือไม่?(เล่าได้ไหม?)

    ~~~~~~~~~~~~~~
    ธงชัย ประดับชนานุรัตน์
    16กุมภาพันธ์2024
    #YoutubeCJCONNECT #thongchaibsc
    #คริสตจักรแห่งความรัก #churchoflove #ShareTheLoveForward #ChurchOfJoy #คริสตจักรแห่งความสุข #NimitmaiChristianChurch #คริสตจักรนิมิตใหม่ #ฮักกัยประเทศไทย #อัลฟ่า #หนึ่งล้านความดี


    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • พระธรรมนำชีวิต
    ตอน เมื่อคุณกินและดื่ม Ep.879

    พระธรรมกันดารวิถีนำให้เราเห็นรูปแบบวิธีการของพระเจ้า พระเจ้าทรงใช้บางอย่างเป็นสัญลักษณ์เพื่อเตือนใจเราให้ระลึกถึงพระองค์เสมอ
    ในบทที่ 15 นี้พระเจ้าทรงกำชับคนอิสราเอลอีกครั้งเรื่องการถวายเครื่องบูชา การถวายเครื่องบูชาลบบาป สิ่งที่ทำให้ผมสนใจและเห็นความเชื่อมโยงระหว่างพันธสัญญาเดิม กับพันธสัญญาใหม่ คือขนมปังกับเหล้าองุ่น

    ”ก็ให้นำธัญบูชามาถวายคู่กับโคผู้นั้นคือแป้งอย่างดีสามกิโลกรัมเคล้าน้ำมันสองลิตร และให้นำเครื่องดื่มบูชาคือเหล้าองุ่นสองลิตรเพื่อการเผาบูชา และเป็นกลิ่นที่พอพระทัยแด่พระยาห์เวห์“
    กันดารวิถี‬ ‭15‬:‭9‬-‭10‬ ‭

    แป้งอย่างดี ถ้าเรายังจำได้แป้งนี้จะต้องไม่ใส่เชื้อเพื่อระลึกถึงวันที่พระเจ้าพาคนอิสราเอลออกจากอียิปต์ และเหล้าองุ่น พระเยซูก็ได้ใช้สองสิ่งนี้เพื่อเตือนให้เราระลึกถึงพระเยซูด้วย

    ”ระหว่างรับประทานอยู่นั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังขึ้นมา และเมื่อขอพระพรแล้ว ก็ทรงหักส่งให้บรรดาสาวกตรัสว่า “จงรับไปกินเถิด นี่เป็นกายของเรา” แล้วพระองค์ทรงหยิบถ้วย เมื่อขอบพระคุณแล้ว ก็ทรงส่งให้พวกเขาตรัสว่า “จงรับไปดื่มทุกคนเถิด เพราะว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญาที่หลั่งออกเพื่อยกบาปโทษคนจำนวนมาก“
    ‭‭มัทธิว‬ ‭26‬:‭26‬-‭28‬ ‭

    ในอาหารมื้อสุดท้าย พระเยซูได้นำให้สาวกของพระองค์คิดถึงแป้งที่กินเข้าไป และคิดถึงเหล้าองุ่นที่ดื่มเข้าไป พระเยซูรู้ว่าพระองค์กำลังจะไม่อยู่กับพวกเขาแล้ว พระเยซูจึงใช้สองสิ่งนี้ที่อยู่กับพวกสาวกและพวกเราเสมอคือการกินและดื่ม เพื่อระลึกถึงพระองค์

    ”เมื่อขอบพระคุณแล้วจึงทรงหัก และตรัสว่า “นี่เป็นกายของเรา ซึ่งให้แก่ท่านทั้งหลาย จงทำอย่างนี้เพื่อระลึกถึงเรา” หลังจากรับประทานอาหารแล้ว พระองค์ทรงหยิบถ้วยด้วยอากัปกิริยาเดียวกัน ตรัสว่า “ถ้วยนี้คือพันธสัญญาใหม่ โดยโลหิตของเรา จงทำอย่างนี้ คือเมื่อใดที่พวกท่านดื่มจากถ้วยนี้ จงดื่มเพื่อระลึกถึงเรา” เพราะว่าเมื่อใดที่พวกท่านกินขนมปังและดื่มจากถ้วยนี้ ท่านก็ประกาศการวายพระชนม์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าพระองค์จะเสด็จมา“ ‭‭1 โครินธ์‬ ‭11‬:‭24‬-‭26‬

    เพราะว่าเมื่อท่านกินและดื่มเวลาใด จงทำเพื่อระลึกถึงเรา เราในที่นี้หมายถึงพระเยซู สำหรับพวกเราหลายคนอาจจะมองว่านี่เป็นพิธีที่เราต้องทำเพื่อระลึกถึงพระเจ้า แต่ผมได้ข้อคิดตรงนี้ว่า แผ่นแป้งคืออาหารหลักของคนอิสราเอล ส่วนของเราคือข้าว เหล้าองุ่นคือเครื่องดื่มหลักของพวกเขา ส่วนของเราคือน้ำ ผมอยากชวนพวกเราทุกคนว่า ทุกครั้งที่เรากินและดื่ม ก็ให้เรากินและดื่มเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระเจ้า และทุกครั้งที่กินและดื่มนั้นก็ให้เราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อจะเล่าเรื่องราวพระคุณของพระเจ้า มีชีวิตอยูเพื่อจะเล่า เพื่อเป็นพยานถึงสิ่งที่พระเยซูทำคือการเปลี่ยนแปลงเราให้มีความคิด มีความต้องการ และเราจะทำเหมือนที่พระเยซูทำ พวกเราจะทำไปจนกว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมา หรือเรากลับไปหาพระองค์ที่บ้านของพระองค์

    ”เพื่อเจ้าทั้งหลายจะมองดูพู่นั้น และจดจำพระบัญญัติทั้งหมดของพระยาห์เวห์แล้วปฏิบัติตาม เพื่อเจ้าจะไม่ทำอะไรตามความพอใจของเจ้า หรือตามที่ตาของพวกเจ้าอยากเห็น ซึ่งนำให้เจ้าหลงไปเล่นชู้ตามนั้น เพื่อว่าพวกเจ้าจะจดจำและทำตามพระบัญญัติทั้งหมดของเรา และเป็นคนบริสุทธิ์แด่พระเจ้าของเจ้าทั้งหลาย เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าผู้นำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเป็นพระเจ้าของพวกเจ้า เราคือยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า”“
    ‭‭กันดารวิถี‬ ‭15‬:‭39‬-‭41‬

    สำหรับคนอิสราเอลเขาต้องทำพู่ที่ชายเสื้อคลุม เพื่อระลึกถึงพระเจ้าและกฎเกณฑ์ของพระเจ้า ขอพวกเราเตือนใจตัวเองด้วยการกินและดื่ม เพื่อเราจะไม่ทำอะไรตามความพอใจของเรา หรือตามที่ตาหรือความอยากของพวกเราต้องการซึ่งจะนำให้เราหลงไปจากทางพระเจ้า เพื่อว่าพวกเราจะจดจำและทำตามพระบัญญัติทั้งหมดของพระเจ้า เพื่อพวกเราจะเป็นคนบริสุทธิ์ของพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้นำพวกเราออกจากความบาป เพื่อพระองค์จะเป็นพระเจ้าของพวกเรา และเป็นเจ้าของพวกเรา
    วุฒิ วงศ์สรรเสริญ


    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message

  • ก่อนเข้านอนคืนนี้ อ.วาระ มีชูธน จาก คริสตจักรเมืองไทย อยากขอชวนคุณมาพักสงบให้ชีวิตได้หยุดนิ่ง แล้วพักพิงในพระเจ้าไปด้วยกัน

    ---

    Send in a voice message: https://podcasters.spotify.com/pod/show/soulfood-podcast/message