Episodes
-
หนังสือ Living in the Light: Yoga for Self-Realization ของ Deepak Chopra
- เมื่อโยคะไม่ใช่เป็นเพียงแค่การออกกำลังกาย แต่มันหมายถึงการบำบัดสติในชีวิตประจำวัน
- ฝึกฝนโยคะในชีวิตประจำวัน จะทำให้เราสามารถกำหนดลมหายใจเข้าออกได้อย่างอิสระ
- เมื่อมีสติ สมาธิจะตามมา แถมหลังจากนั้นเราจะเริ่มมีปัญญา มองเห็นสรรพสิ่งอย่างสิ่งที่มันเป็น
- ลองมองโลกอย่างที่มันเป็นไป ไม่ใช่แบบในสิ่งที่เราอยากให้มันเป็น ไม่ควบคุมและไม่แทรกแซง
- นิมิตแสงที่เกิดขึ้นมาระหว่างฝึกโยคะ ก็คือส่วนหนึ่งของสมาธิ มันไม่ใช่สิ่งแปลก แต่อาจจะเป็นสิ่งใหม่สำหรับบางคน
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ หนูรู้ว่าแม่เป็นหนี้บัตรเครดิตมาประมาณ เกือบ ๆ ปี ใช้บัตรมาเพราะหมุนเงินไม่ทัน แล้วหนูก็เริ่มทำงานไม่นานยังไม่ทันเก็บเงินก็ต้องส่งเงินให้แม่แล้ว หนูเก็บเงินไม่ได้เลยค่ะ ต้องส่งให้แม่ประมาณ 30% ของเงินเดือน ไม่ส่งก็ไม่ได้เพราะแม่เองก็ไม่ไหว ท้อมากเลยค่ะ คนรอบข้างหนูมีแต่พ่อแม่มีเงิน ทำงานพร้อมใช้ชีวิตต่อได้เลย แล้วเรื่องเงินหนูก็มีปัญหาตั้งแต่ตอนเรียนแล้วค่ะ หนูทำงานตั้งแต่ ม.ต้น แต่ตอนนั้นหนูไม่สามารถใช้เงินตัวเองได้ เพราะแม่ดูแลเงินหนูและแม่ก็ชอบกดไปใช้ ตอนนั้นหนูรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากเพราะเหมือนแบ่งเบาภาระพ่อแม่ แต่พอหนูเก็บเงินมาสักพัก หนูก็อยากไปเรียนเต้น เลยไปขอเงินแม่ แต่แม่ไม่ยอมให้ และทิ้งท้ายว่าเก็บเงินไว้เลี้ยงแม่ดีกว่าไหม หนูจำมาตั้งแต่นั้นว่า โตมาจะย้ายบัญชีเงินเก็บเพื่อใช้เอง แต่พอมาตอนนี้มันกลับไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดไว้ หนูท้อมากเลยค่ะ หนูขอกำลังใจ และคำแนะนำหน่อยนะคะ จริง ๆ แม่ก็กู้เงินมาเพราะหนู หนูเข้าใจนะแต่มันก็อดน้อยใจไม่ได้เลยค่ะ
- เมื่อพ่อแม่ต้องตั้งคำถามว่า เราพร้อมที่จะมีลูกจริง ๆ ไหมไม่ว่าจะเป็นฐานะทางการเงินและสภาวะทางจิตใจ
- ส่วนที่แม่ทำให้เรา เขาหาเงินจากการกู้หนี้ยืมสินซึ่งมันเป็นหนึ่งในวิธีที่ทำได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะต้องทำแบบนี้
- ใครที่กำลังถูกสอนว่า พ่อแม่หาเงินมาด้วยความยากลำบาก อันนั้นเป็นความจริงเพียงส่วนหนึ่ง เพราะครอบครัวเพื่อนเขาก็สามารถมีทุนทรัพย์ให้กับลูกเขาได้
- โฟกัสครอบครัวของเรา หาความจริงให้เจอว่า เราจะสามารถแก้ปัญหาทางการเงินของแม่ได้อย่างไร เรียนรู้วิชาความรู้ทางการเงินตั้งแต่วันนี้เลย
- หนี้สินที่ดี กับหนี้สินที่ไม่ดี สองความหมายนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เมื่อเราใช้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยเฉลี่ย 16% ต่อปีเราจะหารายได้อะไรที่ให้ผลตอบแทนระดับนี้จึงแทบเป็นไปไม่ได้
-
Missing episodes?
-
ข้อความโพสต์จาก James Clear ได้เขียนข้อความไว้ว่า "กลวิธีที่เราจะมองการให้คำแนะนำว่าเป็นของขวัญสำหรับชีวิตเรา ก็คือการที่เราคิดว่าเราทุกคนย่อมต้องมีจุดบอดด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่กังวลที่จะได้ยินมันเพียงส่วนเดียว"
- ทุกคนบนโลกย่อมมีจุดบอด ไม่มีใครเลยในโลกที่เกิดมาโดยไม่ต้องแก้ไข หรือปรับปรุงตนเอง
- แล้วมุมมองของสิ่ง ๆ หนึ่งย่อมสะท้อนไปยังอีกจุด ๆ หนึ่งเสมอ มันจึงเป็นเหมือนภารกิจที่ต้องปรับมุมมอง
- ถ้าเรามองไปยังจุดสำคัญที่สุดของชีวิตก็คือ คำสอน และคำแนะนำ วันหนึ่งเราจะหามันยากขึ้นเรื่อย ๆ ตามวัย
- วันหนึ่งเราต้องเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น หน้าที่ของเราทุกคนคือมอบความรู้กลับคืนไปสู่สังคม ผู้คนอีกมากมายต้องการคนที่มอบคุณค่าให้ได้
- ไม่ต้องกลัวคำแนะนำหรือคำสอน นี่คือพรและอัญมณีที่ล้ำค่าที่สุดบนโลกใบนี้ แล้วเราจะตระหนักได้สักวันหนึ่งว่ามันมีค่ามากเพียงใด
-
หนังสือ สอนลูกเป็นมังกร ของ ใบไผ่เขียว (หลิวยง)
- หนังสือในตำนาน ที่คนเขียนเป็นคนไต้หวันแล้วการเขียนโดยวิถีทางอย่างเป็นระเบียบ
- การสอนลูกไม่ใช่เรื่องง่าย มันเป็นโจทย์และบททดสอบที่ยากมาเสมอ แต่หนังสือเล่มนี้มอบแง่มุมได้อย่างหลากหลาย
- เมื่อเราประสบพบเจอเหตุการณ์ที่เลวร้าย เราจะตัดสินใจอย่างไร นี่คือขั้นตอนที่ยากที่สุด แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ควรสนทนาที่สุด
- การอยู่ต่างประเทศ เราอาจจะต้องปรับตัว แต่อย่าลืมว่าการปรับตัวเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเลือกคบเพื่อน
- วิถีชีวิตคือกรอบที่เราตัดสินใจเลือกเดิน พอถึงจุด ๆ หนึ่งเราจะไม่สามารถย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้ จงจดจำจุดที่เราเดินมา เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง
-
มีคนมาปรึกษาว่า เรามีแฝดชายหญิง ส่วนเราเป็นผู้หญิงค่ะ แต่แม่รักลูกชายมากกว่า เราเลยอยากรู้ว่าควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงดีคะ ไม่ให้รู้สึกน้อยใจค่ะ
- คำพูดที่ว่า พ่อแม่รักลูกเท่ากัน มันเป็นเพียงแค่อุดมคติ เพราะแม้กระทั่งนิ้วมือเรายังไม่เท่ากันเลย
- แง่มุมหนึ่งของเรา อาจจะเป็นเพียงแค่ส่วนเสี้ยวหนึ่งของชีวิต เรียนรู้ให้ได้ว่าทำไมพ่อแม่ถึงรักเราน้อย หรือมากกว่า
- ทุกสิ่งมีเหตุผลประกอบด้วยเสมอ มันไม่ใช่เหตุผลของใคร แต่มันเป็นเหตุและผลของสิ่งที่มันควรจะเป็นไป
- เข้าใจสภาวะที่แตกต่าง เช่น แม่อาจจะรักเราน้อย เพราะเราดูน่าเป็นห่วงน้อยกว่าพี่น้องเรา หรือลองปรับมุมมองเพื่อยอมรับสิ่งที่ไม่เหมือน
- ความน้อยใจเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ แต่มันจะทุเลาลงถ้าเราโตเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น เพราะเราจะรู้แล้วว่า ความรักเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตไม่ใช่ทั้งหมด
-
ข้อความโพสต์จาก Morgan Housel ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ไม่มีความสำเร็จอะไรที่จะมืดบอดไปมากกว่าความโชคดี เพราะว่าถ้าเราไม่ได้ใช้ความพยายามเพื่อความสำเร็จแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่เราจะคิดแบบง่าย ๆ ว่า ฉันคงจะมีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิดอย่างแน่นอน"
- พรสวรรค์ใดเล่าจะสู่พรแสวงได้ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะรอคอยพรจากฟ้า แต่หลงลืมพรจากตน
- ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ลิขิตตน สิ่งนี้เป็นตัวเน้นย้ำว่า ความสำเร็จมันจะเข้ามาที่ตนได้ก็ต้องเนื่องด้วยตน
- ฟ้าก็สำคัญ แต่มันไม่ใช่จะอิงอาศัยแต่ความโชคดีเพียงอย่างเดียว แต่จงสร้างความโชคดีให้อยู่กับชีวิตจะดีกว่า
- บางคนอาจจะรู้สึกว่ามีพรสวรรค์เต็มไปหมด เพียงเพราะเขารู้จักตนเองว่า ถ้าเขาตั้งใจทำอะไรและหมุดหมายชัดเจนแล้วมันจะเป็นไปได้
- เมื่อเรากำลังมืดบอดเกี่ยวกับชีวิต เราจงตระหนักว่า แสงสว่างเดียวคือปัญญาที่จะส่องทางให้ชีวิตเรามีความหมายอย่างแท้จริง
-
หนังสือ The Art of War ของ Sun Tzu
- เมื่อตำราพิชัยสงคราม คือ ตำราที่ว่าด้วยเรื่องการสู้รบอย่างไรให้ได้รับชัยชนะอย่างยั่งยืน
- แล้วการเริ่มต้นของสงครามก็ได้เริ่มต้นขึ้น มันจึงเป็นที่มาของคำว่า เราต้องเรียนรู้จักตน ก่อนที่จะรู้จักคนอื่น
- สถานที่ เหตุการณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงดินแดนย่อมบ่งชี้ถึงแนวโน้มว่าเราจะได้รับชัยชนะ หรือพ่ายแพ้กลับไป
- ทุกอย่างถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เหตุ กลลวงเป็นกลยุทธ์ที่หลอกล่อให้คู่ต่อสู้สับสน ยังไงแล้วอย่าลืมหลอกล่อด้วยปัญญา
- รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เป็นวลีที่เราต้องเรียนรู้จักสรรพสิ่งรอบตัว ให้ถ่องแท้มากที่เราทำได้
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ เราเลิกกับแฟนได้ไม่ถึงเดือน ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาไม่ได้รักเราเหมือนเดิม เขาให้เหตุผลว่าเราชอบบอกเลิกเขา เวลาเราโดนละเลยความรู้สึก แถมโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว เราจะชอบพูดคำว่า เลิกออกไป แต่ทุกครั้งที่เราบอกเลิก เราก็จะเป็นคนไปง้อเขา แต่ครั้งสุดท้ายเขาเป็นฝ่ายบอกเลิกเรา เพราะความรักที่เขามีให้เรามันลดลงไปมาก แต่อยู่ดี ๆ เขาก็ทักมาขอคืนดี เราควรกลับไปดีไหม เรากลัวว่ามันจะจบแบบเดิม เขาละเลย แล้วเราก็จะบอกเลิกอีก เรากลัวว่ามันจะวนลูปแบบนี้ เราสับสนมากเลยค่ะ
- ไม่มีใครอยากถูกบอกเลิกตลอดทุกครั้งที่เราไม่ได้ดังใจ และไม่มีใครอยากบอกเลิกถ้ายังรู้สึกดีด้วยอยู่
- บางครั้งการตัดใจ หรือออกจากความสัมพันธ์หนึ่งมา ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่าฝืนทนอยู่ต่อไป เพียงเพราะใช้คำว่าผูกพันกัน
- ความผูกพัน แม้อาจจะฟังดูดีในกับบางคน แต่ในความเป็นจริงแล้วความผูกพันนี่แหละเป็นบ่อเกิดของปัญหาใหญ่ ๆ มากมาย
- ความรักเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แน่นอนว่าด้วยอายุ ด้วยวัย และด้วยประสบการณ์มันอาจจะยังสอนใจเราไม่มากพอว่า เราควรหาคนแบบใดร่วมชีวิตด้วย
- ทั้งนี้ ไม่มีสูตรสำเร็จในชีวิตคู่ เราต้องถามตัวเราเองว่าการย้อนกลับไปคุย กลับไปคบกันเหมือนเดิม เราและเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ ไหม จงเป็นหนังสือเล่มใหม่ ไม่ใช่เป็นฉบับปรับปรุง
-
ข้อความโพสต์จาก Simon Sinek ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ความสำเร็จสามารถเป็นภัยอันตรายได้ ถ้ามันมีแนวโน้มที่จะทำให้เรามองไม่เห็นโอกาสใด ๆ อีก แถมปกปิดการได้ยินได้ฟังไอเดียดี ๆ จากผู้คนรอบข้างไปอีกด้วย"
- ปัญหาของปัญหาก็คือปัญหาอยู่ดี ความสำเร็จคือโจทย์ที่เราจำเป็นต้องแก้ไขมัน
- ความสุขของชีวิตคือสิ่งเดียวเท่านั้นที่เราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงให้มากที่สุด มิใช่ความสำเร็จ
- แล้วการที่เราหลงไปยังจุดที่เรายังไม่เข้าใจมัน มันก็จะบดขยี้ชีวิตให้แหลกเหลวยิ่งกว่าเดิม
- เปิดหู และเปิดตาอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด มันเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
- จงทำตัวเหมือนฟองน้ำ ที่จะต้องซึมซับสิ่งที่ดี และคายน้ำที่ไม่ดีทิ้งไป นั่นจึงเป็นประโยชน์สูงสุดของชีวิต
-
หนังสือ Why Startups Fail: A New Roadmap for Entrepreneurial Success ของ Tom Eisenmann
- ปัญหาอันดับ 1 ของสตาร์ทอัพก็คือ มีแต่ไอเดียอย่างเดียว แต่ขาดเป้าหมายการหารายได้
- แล้วส่วนใหญ่ของบริษัทที่เปิดใหม่ มักจะมีอัตราการเผาเงินในช่วงแรก (Burn Rate) ที่สูงเกินความจำเป็น
- ความรวดเร็ว เป้าหมาย และการกำหนดอัตลักษณ์ของบริษัท ที่บางทีเราอาจจะไม่ได้มีความชัดเจนมากพอระหว่างดำเนินการ
- ปัญหาเล็ก ๆ แต่มันรวมไปในจุดเดียวกัน มันก็สร้างปัญหาที่ใหญ่ได้เหมือนกัน บริบทของปัญหาสำคัญอย่างมากในบั้นปลาย
- ถ้าเรารู้ว่าธุรกิจเราสามารถแก้ไขปัญหาได้จริง แล้วได้ตรงจุด วันหนึ่งบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ แต่อย่าลืมกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
-
มีคนมาปรึกษาว่า สามีที่อยู่ด้วยกันมา 11 ปี แล้วก็มีลูกด้วยกัน 1 คน เขาก็ถือว่าเป็นสามีและพ่อที่ดีคนหนึ่ง ทำงานค้าขายด้วยกัน ช่วยกันทำมาหากินจนมีบ้านมีรถ แต่เมื่อ 6 ปีก่อนจนถึงทุกวันนี้เขาเป็นผู้ป่วยจิตเวช เหตุเกิดจากการจากกินน้ำกระท่อมแล้วก็ผสมยาแก้ไอ แล้วเหมือนหลุด ๆ เป็น ๆ หาย ๆ มา 6-7 ครั้ง ขอร้องให้เขาหยุดกิน แรก ๆ ก็รับปากหลัง ๆ ก็เหมือนเดิม เราควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดีคะ ข้อดีมีหลายข้อเลย แต่ข้อเสียหนัก ๆ ก็มีแค่เรื่องนี้ พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น รายได้ก็หายไปเยอะเลย เพราะไม่มีคนช่วยทำงาน แล้วถ้าเราทิ้งเขาตอนนี้ เราจะดูเห็นแก่ตัวไปไหมคะ
- การใช้เหตุผลระหว่างเราควรจะอยู่หรือไปนั้น อยู่ที่ตัวเรา เพราะเราเป็นคนที่อยู่ในความสัมพันธ์นั้น
- บางทีข้อดีที่มากมาย ก็สู้ข้อเสียที่เสียมากเพียงข้อเดียวไม่ได้ เราจึงไม่สามารถเทียบเคียงแบบตรงไปตรงมา
- ถ้ารายได้เราหดหายลงไป แล้วมันกระทบต่อตัวเราเองและลูก รวมไปถึงสามีหรือภรรยาเราไม่ได้ช่วยเหลือ ก็ทำให้ปัญหานี้ใหญ่พอสมควร
- อย่าลืมปรึกษาคนที่ควรปรึกษาด้วยเสมอ ว่าการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยจิตเวช จะต้องรับมืออย่างไร ความหนักเบาขึ้นอยู่กับแต่ละคน รวมไปถึงตัวเราเองด้วย
- ทั้งนี้ ความสุขของชีวิตจะแปรผันตรงกันกับความคาดหวัง ยิ่งเราไม่คาดหวังให้ชีวิตดีมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งมีความสุขกับชีวิตมากเท่านั้น
-
ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ผู้คนมากมายมักจะขู่ว่าลาออก ฟ้องร้อง รวมไปถึงทำให้อับอายต่อหน้าสื่อมวลชน แต่สิ่งนี้คุณทำมันเอง ในขณะที่ผู้คนมากมายได้ให้คำแนะนำว่า ลองปล่อยวางไปดู ทว่า ในบางทีมันคือมุมมองแบบแคบ ๆ เท่านั้น อย่าให้ใครมาทำให้คุณรู้สึกยอมแพ้กับคุณค่าของตัวคุณเอง มันเป็นแค่กฎของเกมที่เปลี่ยนมือ และทำให้คุณได้ทำอะไรคล้าย ๆ เดิม แม้ว่าการต่อสู้เพื่อความถูกต้องมันจะยากในช่วงแรก แต่ถ้าเราปล่อยหมัดอย่างถูกวิธีมันจะสามารถแก้ปัญหาได้ดีขึ้น สิ่งที่ควรกังวลในวันนี้คือโฟกัสในสิ่งที่เราทำ มากกว่าคำพูดของผู้คนมากมาย"
- จงอย่าให้ตัวเองมีพื้นที่เล็กลงจนเกินไป เพราะมันจะมีส่วนทำให้เราไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้
- เมื่อผู้คนกำลังก่นด่าเรา คำถามที่เราควรตั้งกลับไปคือ เราสามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ไหม แล้วปัญหามันเกิดจากอะไรกันแน่
- ถ้าปัญหาทั้งหมดไม่ได้เกิดกับเรา เราก็เพียงแค่ปล่อยวาง แต่ถ้ามันมีส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะเรา ก็ให้รับผิดชอบในส่วนนั้นไป
- พื้นที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิต แต่มันเป็นพลังชีวิตที่สำคัญมาก อย่าปล่อยให้พื้นที่ของชีวิตหดหายเพียงเพราะคนเพียงคนเดียว
- คำพูดของผู้คนมากมาย อาจจะสำคัญ แต่ไม่สำคัญจนหักล้างการกระทำของเราอย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องใส่ใจทุกสิ่งเกินไป
-
หนังสือ Glucose Revolution: The Life-Changing Power of Balancing Your Blood Sugar ของ Jessie Inchauspe
- กลูโคสคือน้ำตาล และมันคือน้ำตาลที่ร่างกายนั้นจำเป็นต้องใช้ ถึงแม้ว่ามันจำเป็นแต่ก็ไม่เสมอไป
- การลดน้ำตาลเป็นอีกวิธีที่สำคัญอย่างมากในยุคสมัยนี้ ซึ่งหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อ้างอิงวิทยาศาสตร์ใด ๆ แค่ให้ลดน้ำตาลเท่านั้น
- เลือดจำเป็นจะต้องมีส่วนประกอบของน้ำตาล แล้วการที่เราทานน้ำตาลมากส่วนใหญ่เลือดก็จะข้นและเหนียวกว่าปกติ น้ำดื่มจะช่วยได้
- บางคนมีอัตราการตอบสนองต่อน้ำตาลที่เร็ว และว่องไวกว่า นั่นหมายความว่าเลือดก็จะมีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิตเช่นกัน
- ถ้าอยากลดน้ำหนัก จำเป็นจะต้องรู้ถึงปริมาณที่ร่างกายเราต้องการน้ำตาล และการปรับโภชนาการให้ถูกต้องควบคู่กันไปด้วย
-
มีคนมาปรึกษาว่า ขอปรึกษาหน่อยค่ะ เรากับแฟนคบกันมา 3 ปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่เรารู้สึกว่าชีวิตคู่มันไม่เหมือนคู่รักกันเลยค่ะ เช้าไปทำงาน เลิกงานก็กลับมากินข้าวแล้วก็นอน ไม่บอกรัก ไม่มีการกอด ไม่หอม วันครบรอบคือวันธรรมดา วันสำคัญใด ๆ ก็แทบไม่เคยได้ของขวัญอะไร แต่ก็เคยได้ครั้งเดียวเพราะเราร้องขอ เหมือนว่าอยู่ด้วยกันแค่เพราะผูกพัน ความเคยชิน ไม่มีโมเมนต์หวาน ๆ อย่างใครเขาเลย เราร้องขอมาตลอด จนวันนี้รู้สึกอยากเจอคนที่เราต้องการจริง ๆ คนที่นิสัยเดียวกันกับเรา จะดูเห็นแก่ตัวไปไหมคะ เขาทำหน้าที่พ่อดีมากเลยค่ะ แต่หน้าที่ผัวเขาทำให้เราไม่ได้เลยค่ะ บางทีก็รู้สึกแย่ เช่น วันสำคัญ ครบรอบต่าง ๆ การบอกรักมันไม่ใช่เป็นสิ่งที่ต้องร้องขอเลยค่ะ มันควรจะเป็นสิ่งปกติของชีวิตคู่ไม่ใช่เหรอ ควรจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงดีคะ
- แต่ละคู่จะมีโหมดในการรักต่างกัน บางคนไม่พูดมากเน้นกระทำ บางคนไม่กระทำไม่พูดแต่เป็นคนดี
- หากว่าเรายังคาดหวังว่าให้คู่รักเป็นแบบนี้ ทำไมเราถึงไม่ทำในสิ่งที่เราต้องการไปเลยจะดีกว่ากันไหม
- บางคนชอบเปรียบเทียบความรู้สึกที่ขาดหายไป กับคนรักของเรา แน่นอนว่าความรู้สึกมันอาจจะลวงเราก็ได้
- นิสัยของแต่ละคนต่างกัน ยอมรับถึงความแตกต่าง โฟกัสในสิ่งที่ควรโฟกัส เมื่อไหร่ก็ตามที่ตัดสินใจเลือกอะไรแล้วจงเคารพในการตัดสินใจนั้นเสมอ
- ทั้งนี้ วันสำคัญที่สุดก็คือวันที่เราอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว วันหนึ่งพอเรามองย้อนกลับมาสิ่งที่สำคัญกับความรู้สึกที่เราให้ความสำคัญย่อมไม่สอดคล้องกัน
-
ข้อความโพสต์จาก James Clear ได้เขียนข้อความไว้ว่า "แทนที่เราจะมัวแต่ถามตัวเองว่า ฉันควรทำอะไรเป็นอย่างแรกดี แต่ให้ลองถามอีกแบบนึงดูนั่นคือ อะไรที่ฉันควรไม่สนใจมันเป็นอย่างแรก ลองตัด ต่อ และแต่ง ทำให้มันดีที่สุดเท่าที่เราทำได้"
- การลดปัญหาลงก็คล้ายกันกับเราเริ่มที่จะจัดการปัญหา แทนที่เราจะสร้างสิ่งที่ดีมาแทนที่ปัญหานั้น
- บางครั้งความสุขที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ได้สลักสำคัญไปมากกว่า ความทุกข์ที่ลดลงก็ได้เช่นกัน รับรู้ถึงมาตรวัดที่ไม่มีวันบรรจบกัน
- ปรับแต่งชีวิตให้ได้ดีที่สุด ตามแบบแผนที่เราวางเอาไว้อย่างดีแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องไปกังวลว่าวันนี้ทำอะไรลงไปบ้าง แต่ให้ครุ่นคิดถึงผลที่ตามมาดีกว่า
- เหมือนกับว่าคนที่ยังไม่รู้เป้าหมายชีวิต ก็มักจะคิดว่าชีวิตจะต้องมีอะไรแปลกตาตลอดเวลา หรือตื่นเต้นทุกวัน แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น
- อย่าลืมลดทอนปัญหาลง ไม่ใช่มัวแต่จะหาสิ่งใหม่ ๆ ให้มันมากขึ้นอยู่อย่างเดียว โดยที่เราไม่รู้ว่าเราควรทำอย่างไรกับสิ่งที่เราหามาดี
-
หนังสือ Financial Intelligence for Entrepreneurs: What You Really Need to Know About the Numbers ของ Karen Berman, Joe Knight and John Case
- งบการเงินเพื่อผู้ประกอบการ ย่อมเป็นสิ่งที่เน้นย้ำว่าเราจะต้องศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
- การเงินมันเป็นศิลปะมากกว่าวิทยาศาสตร์ มันคือการดูความสมมาตรว่า งบนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ยังไงก็ต้องสอบทานอีกรอบหนึ่ง
- เมื่อเงินสด ไม่ใช่เป็นกำไรที่บันทึกไปที่งบกำไรขาดทุน แต่เป็นสิ่งที่เราต้องตามไปดูงบกระแสเงินสดต่ออีกทอดหนึ่งด้วยว่า มันสัมพันธ์กันอย่างไร
- แล้วการที่สุขภาพการเงินของบริษัทนั้นจะดีขึ้นได้ เราก็ต้องดูวิธีการบริหารเงินเป็นหลัก เพราะผู้บริหารบางคนลงทุนหนักจนเพิกเฉยสภาพคล่องไปเลย
- ทั้งนี้ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นอ่านงบการเงิน ยังไงแล้วถ้าหากเราเป็นเจ้าของบริษัท เราก็ต้องทำเป็นเกือบทุกอย่าง โดยที่เป็นการป้องกันการบิดเบือนทางการเงิน
-
มีคนมาปรึกษาว่า แม่ผัวเอาใจมากไป กับ แม่ผัวไม่ชอบหน้าเรา อันไหนอึดอัดกว่ากันคะ
- ไม่ว่าจะมากหรือน้อยไปก็ไม่ดีทั้งนั้น เพราะมันขาดความสมดุลของสภาวะนั้น ๆ ไป
- เมื่อความอึดอัดหมายถึง จุดที่เราต้องการ กับจุดที่อีกฝ่ายมอบให้นั้นไม่ตรงกัน ความรู้สึกนี้จึงบังเกิดขึ้น
- ในทุกความสัมพันธ์ ความสบายใจจะเกิดยากกว่าความอึดอัดใจ ก็เพียงเพราะถ้าเรามีความคาดหวังที่ยืดหยุ่นไม่ได้ เราจะยิ่งรู้สึกมาก
- ปรับใจดูว่า สมมุติอีกฝ่ายเขาเป็นคนที่รักเรามาก เราก็ให้เข้าใจเขาว่าเราคงมีสิ่งที่ถูกใจเขา ส่วนถ้าเขาไม่ชอบหน้าเรามาก ก็ให้เข้าใจว่าเราคงมีสิ่งที่ไม่ถูกใจ
- โลกใบนี้มีสองสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ คือ สิ่งที่เราควบคุมได้ กับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ เราควบคุมให้อีกฝ่ายมารักมาพอใจเราไม่ได้ แถมพอมากไปน้อยไปก็เป็นปัญหาอีก
-
ข้อความโพสต์จาก Mark Minervini ได้เขียนข้อความไว้ว่า "เทรดเดอร์มักจะคิดผิดเกี่ยวกับความล้มเหลว แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนจำนวนหนึ่งผิดพลาดในจุดที่สูงแล้วพอสมควร เพียงเพราะเขาขาดวินัย และการได้รับมอบหมายในภารกิจเพียงหนึ่งเดียว ความล้มเหลวที่จะทำให้กฎ กลยุทธ์ และอารมณ์นั้นสมบูรณ์แบบ ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้เวลา แม้ว่าเทรดเดอร์หลายคนจะซื้อหุ้นที่ไม่ดี โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่ได้รับเลย แถมยังมีการเริ่มต้นไปกับกฎอันมากมาย แต่ผู้คนก็ยังพ่ายแพ้ต่อการมีหลักการอยู่ร่ำไป มีผู้คนส่วนน้อยที่จะยึดในกฎอย่างแท้จริง รวมไปถึงศึกษาทุกสิ่งที่ได้เรียนรู้มา ก็เพราะเขามักจะขึ้นเรือที่ขาดความยอดเยี่ยม พร้อมกับกลยุทธ์ที่ย้อนแย้งกัน คุณจำเป็นต้องมีแผนการที่ชัดเจน แต่ถ้ามันปราศจากวินัย แผนการก็เป็นเพียงแค่แผนการเท่านั้น"
- 4 เสาหลักของความยอดเยี่ยม คือ วินัย แผนการ ความตั้งมั่น และการกำหนดไปยังวิถีทาง
- ถ้าเราไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย มันจะมีปัญหาในการเป็นเทรดเดอร์ เพราะมันไม่ง่ายที่จะทำกำไร
- เกมที่สู้กับตัวเองก็คือเกมที่ เราไม่มีใครแข่งขันกับเราเลย มันคือเกมที่เราต้องชนะใจตัวเองลูกเดียว
- ปัญหาของชีวิตส่วนใหญ่ ก็คือเราไม่ค่อยรู้จักตัวเราเอง ถ้าเรารู้ว่าเราควรแก้ไขยังไง เราจะไม่เจอผลลัพธ์แบบเดิม
- ลดความย้อนแย้งของการกระทำ ด้วยการดูไปที่เหตุว่า เหตุนี้มีมาได้อย่างไร แล้วผลลัพธ์ที่เราคาดหวังไว้มันตรงกันไหม
-
หนังสือ The Greatest Salesman in the World ของ Og Mandino
- เราทุกคนเป็นนักขายกันอยู่แล้ว เรามักจะนำเสนอตัวเองให้ผู้คนได้รับรู้ในมุมมองที่แตกต่างกันไป
- ปรัชญาของการขายคือ ตัวเรามีอะไรที่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ที่เขาต้องการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราหรือไม่
- ผู้ที่ควบคุมตัวเองได้ทั้งหมดเท่านั้น ที่จะสามารถควบคุมทุกสิ่งอย่างได้ เพียงแค่เราทำอย่างที่ธรรมชาตินั้นบอกให้เราทำ
- ความสำเร็จ คือการมองความล้มเหลวอย่างมีสติ วันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ได้ทำ แต่ไม่ใช่จุดท้ายที่สุดของชีวิต
- มุมมองคือทัศนคติ ที่จะเบิกเนตรเรา มันทำให้เราเล็งเห็นว่า เราจะทำอะไรก็ได้อย่างสิ่งที่เราปรารถนา แต่เราจะไม่ได้ทุกสิ่งที่เราปรารถนา
-
มีคนมาปรึกษาว่า สวัสดีค่ะ หนูมีเรื่องอยากจะระบายและอยากปรึกษา คือหนูไม่เคยมีแฟนมาก่อน ตอนที่หนูอยู่ ปี 1 หนูแอบชอบผู้ชายคนหนึ่ง ภายนอกเขาเป็นคนหล่อ สูง และผิวขาว เราเจอกันในงานของมหาวิทยาลัย แล้วก็แอบชอบมาเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งตอนที่อยู่ตอน ปี 2 หนูก็เจอเขาในแอปหาคู่ แล้วหนูก็ไปเป็น FWB กับเพื่อนของคนที่หนูแอบชอบค่ะ เขาชื่อแม็ก หนูเป็นเด็กของเขา หนูอยู่ในความสัมพันธ์นี้มา 1 ปี หนูก็รู้ว่าเขามีแฟนแล้วค่ะ แต่หนูกับเขาก็ยังอยู่ในสถานะนี้อยู่ จนวันหนึ่งหนูได้เจอผู้ชายคนหนึ่งที่ทำให้หนูออกจากความสัมพันธ์นี้ได้ เขาชื่อเสก หนูก็เลยจบกับแม็กแล้วมาคุยกับเสกแทน ตอนนั้นในช่วงแรก ๆ มันดีมาก ดีแบบมาก ๆ เลยค่ะ แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หนูคิดไว้ค่ะ เสกไม่ได้มีแค่หนูคนเดียวค่ะ เขามีคนอื่นทั้ง ๆ ที่หนูมีเขาแค่คนเดียว มันเลยทำให้หนูกับเสกเลิกกันไปในรอบแรก แต่หนูก็กลับมาคุยกับเสกอีกรอบนึง แต่รอบนี้เขามีความรู้สึกกับหนูเปลี่ยนแปลงไป เขาเกลียดหนูมากเขาบอกว่า เราเลิกยุ่งกันไปดีไหม เขาเบื่อหนู หลังจากนั้นเขาก็ตัดช่องติดต่อหนู แบบบล็อกทุกอย่าง เลยมาทบทวนว่าตอนที่หนูอยู่กับเสกมันมีความสุขแค่ช่วงแรก ๆ แต่หลัง ๆ หนูกลับรู้สึกเหนื่อยมาก ๆ ในการประคับประคองความสัมพันธ์นี้เอาไว้ หนูไม่มีความสุขเลย ตอนที่หนูอยู่กับคนที่ชื่อแม็กหนูกลับมีความสุขมากกว่าอีก ใจหนึ่งหนูก็คงยังรักเสก และอยากให้เขากลับมาหา แต่อีกใจหนึ่งหนูก็เจ็บทรมานมากค่ะ อยากให้เสกเขาเจอแบบที่หนูเจอ ให้เขาได้รู้สึกถึงสิ่งที่เขาได้ทำ และอยากให้เขาเจอคนแบบเดียวกับเขา หนูเลยสงสัยว่าหนูควรทำยังไงหนูถึงจะออกจากจุดที่หนูเป็นอยู่ตอนนี้ได้ หนูไม่อยากเจ็บแบบนี้อีกแล้วค่ะ
- สถานะเป็นตัวกำหนดความรู้สึกมวลรวมทั้งหมด ยิ่งสถานะเบาเท่าไหร่ ความสุขจะมากขึ้นเท่านั้น
- ความสัมพันธ์ที่จริงจัง จะมาพร้อมกับภาระผูกพันด้วยเสมอ หากว่าเราต้องการความสุขมาก จะต้องไม่คิดมากในเรื่องความสัมพันธ์
- ทำไมสถานะที่ไม่ผูกมัดในหลาย ๆ สถานะถึงมีความสุขมากกว่า ก็เพียงเพราะเราไม่ได้คาดหวัง ยิ่งคาดหวัง ยิ่งผิดหวัง จงรู้อยู่ในทุกสถานะ
- ลองเปลี่ยนบริบทการมองเช่น ตอนนี้เรามีแฟน เราก็ย่อมเห็นมุมของคนเป็นแฟน ลองคิดกลับกันถ้าเรามีสถานะที่เป็นเบอร์ 2 แล้วเบอร์ 1 จะรู้สึกแบบเดียวกับเราตอนเป็นเบอร์ 1 ไหม
- ถ้าเราคิดในมุมของเราว่า เราไม่ได้ผิดอะไร ใช่เราเองไม่ผิด แต่ถ้าคิดอีกมุมหนึ่ง เราต้องตระหนักว่า ตัวเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็ไม่ใช่ เพราะเราผิดในอีกจุดหนึ่งของอีกเรื่องราวหนึ่งเสมอ
- Show more