Episodit
-
18 มิถุนายน ไม่ทราบว่าฤกษ์ยามจากสำนักไหน แต่เรื่องใหญ่การเมืองไทยปะทุพร้อมกัน ตั้งแต่คดียุบพรรคก้าวไกลที่จะได้รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะนัดชี้ชะตาเลยหรือขยายเวลาต่อไปอีก วันเดียวกัน คดีที่ 40 สว. ไปยื่นถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ศาลท่านก็จะกำหนดวันวินิจฉัยวันเดียวกันอีก คือการเลือก สว. จะล้มหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญท่านอาจชี้ชะตาเลยหรือไม่ และโฟกัสใหญ่คืออดีตนายกฯ ทักษิณ จะเดินทางมาที่สำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อส่งตัวฟ้องคดีมาตรา 112 ต่อศาลหรือไม่
-
การเมืองไทยเข้าสู่เดือนมิถุนายนพร้อมกับความไร้เสถียรภาพ เราอยู่ในสถานะที่ไม่รู้ว่านายกรัฐมนตรีของประเทศไทยจะเป็นคนเดิมหรือต้องเปลี่ยนตัวเพราะต้องรอศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา ส่วนอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็ต้องรอลุ้นว่าจะลงเอยอย่างไร หลังอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคดี 112 และนัดมาส่งฟ้องต่อศาลวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ทั้งสองกรณีไม่ว่าจะลงเอยอย่างไร มันทำให้เดือนมิถุนายนกลายเป็นเดือนที่สูญเปล่าทางเศรษฐกิจ รัฐบาลทำงานอะไรก็ไม่ได้เต็มที่เพราะไม่รู้ลูกผีลูกคน ในขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจยังถาโถม วิกฤตศรัทธาของพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่กระเตื้องกลับมา
-
Puuttuva jakso?
-
ชมวิดีโอ EP นี้ใน YouTube เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด https://youtu.be/rY2sKrtDLvc
รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำไปทำมานอกจากผลงานยังไม่เข้าตา คะแนนนิยมยังไม่ขยับผ่านโพลหลายสำนักแล้ว ยังจะดูง่อนแง่นขาดเสถียรภาพ ตั้งแต่คดีตามคำร้อง 40 สว. กรณีตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ที่ไปจ่อรอชี้ชะตาที่ศาลรัฐธรรมนูญ และกรณีอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีมาตรา 112 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี การดึง วิษณุ เครืองาม มาช่วยงานครั้งนี้จึงถูกมองได้สองแบบ แบบหนึ่งคือดึงมาช่วยงานรัฐบาลจริงๆ อีกแบบหนึ่งคือเป็นตัวแทนอำนาจเก่ามานั่งเฝ้ารัฐบาลเพื่อไทย
-
ถ้าถามว่าทำอย่างไรไม่ให้การเสียชีวิตของ บุ้ง เนติพร สูญเปล่า คำตอบคือการพูดถึงข้อเรียกร้องของเธอต่อไป ข้อเรียกร้องที่เรียบง่ายและไม่ต้องแก้กฎหมายใดๆ คือ ‘การคืนสิทธิประกันตัว’ เพราะบุ้งยังไม่ได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด เช่นเดียวกับผู้ต้องหาทางการเมืองอีกหลายคนที่เผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกัน ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยกับวิธีการก่อนหน้านี้ของเธอหรือไม่ แต่ข้อเรียกร้องระหว่างอดอาหารของเธอถือเป็นหลักสากล การเสียชีวิตของบุ้งทำให้เกิดคำถามและการทวงสัญญาจากรัฐบาลเพื่อไทย ทั้งมาตรฐานการดูแลผู้ต้องหา และคำสัญญาที่พูดไว้เพื่อเรียกคะแนนกับคนรุ่นใหม่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ไหนๆ ก็เป็นรัฐบาลแล้ว อย่าให้เสียของ ใช้อำนาจที่พอมีขยับให้สังคมไทยก้าวหน้าในเชิงโครงสร้างไปอีกนิดดีกว่าไม่ขยับไปไหนเลย
-
ปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้มีรัฐมนตรีลาออกอีกแล้ว ในทางการเมืองอาจไม่ได้ทำให้เห็นรอยร้าวของรัฐบาลเศรษฐา แต่ภาพลักษณ์ด่างพร้อยย่อมเกิดขึ้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ ขณะที่ผีจำนำข้าวยังตามหลอกหลอนรัฐบาลเพื่อไทยกับดราม่าข้าว 10 ปี ที่ตกลงแล้วกินได้หรือไม่ยังไม่รู้ แต่ที่รู้คือรัฐบาลบอกว่าคนไทยจะไม่ได้กิน
-
การเมืองหลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเฉลยตัวละครและความสัมพันธ์ทางอำนาจหลายอย่างให้กระจ่างชัดมากขึ้นเสมอ ในการปรับ ครม. เศรษฐาครั้งแรกนี้ก็เช่นกัน ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็จัดงาน ‘10 เดือนไม่รอ ทำต่อให้เต็ม10’ ตอกย้ำผลงานรัฐบาลหลังตัดสินใจตั้งรัฐบาลผสม นี่คืองานใหญ่หลังการปรับ ครม. ซึ่งทำให้เราเห็นบทบาทและทิศทางของรัฐมนตรีหน้าใหม่หลายท่าน
-
การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลเศรษฐาครั้งแรกยังวิ่งกันไม่หยุดแม้โผจะเริ่มนิ่งแต่ยังมีคนวิ่งจนนาทีสุดท้าย ทักษิณตั้ง เศรษฐาปลด ยิ่งเด่นชัดในกระแสปรับ ครม. การเดินทางไปกินข้าวกลางวันของนายกฯ เศรษฐา กับอดีตนายกฯ ทักษิณ คือการสื่อสารที่ชัดเจนของโมเดลการบริหารประเทศ-บริหารอำนาจของรัฐบาลปัจจุบันที่เหมือนจะคล้ายโมเดลลุงตู่-ลุงป้อม แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว ติดตามและร่วมวิเคราะห์ไปพร้อมกันได้ในวันที่ 27 เมษายนนี้ เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป
-
รัฐบาลเศรษฐาทำงานไปได้ 7 เดือน มีการขยับปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กันแล้ว แม้ตอนนี้ฝุ่นยังตลบแต่แหล่งข่าวระดับสูงยืนยันว่าปรับแน่นอน ขณะที่เศรษฐาก็ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ต้องวิ่งเต้น ผลงานจะเป็นทั้งเกราะป้องกันและบันไดให้อยู่ในตำแหน่ง มองในแง่มุมทางการเมือง การปรับ ครม. ครั้งนี้สะท้อนการแบ่งแยกอำนาจนำในการตัดสินใจระหว่างทักษิณกับเศรษฐา คนหนึ่งอาจชี้นำแต่งตั้งรัฐมนตรีได้ แต่อำนาจการประเมินผลงานเพื่อปรับ ครม. อยู่ที่เศรษฐา
-
พรรคฝ่ายค้านใช้เวทีอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหาต่อ ครม. โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล 6 เดือน สาระที่สะเทือนรัฐบาลที่สุดคือการเจาะลึกแฉข้อมูลเครือข่ายธุรกิจสีเทา แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีทรัพยากรของไทย ทั้งไฟฟ้าและน้ำมันส่งข้ามไป พร้อมเปิดข้อมูลเจ้าของคาสิโนในประเทศเพื่อนบ้านที่นายตำรวจและผู้มีอิทธิพลไทยเป็นเจ้าของ รวมถึงเปิดข้อมูลการเช่าพื้นที่ของกองทัพเรือ ซึ่งทุกคนรู้ดีว่ากองทัพคือจุดอ่อนสำคัญที่รัฐบาลเพื่อไทยไม่กล้าแตะ
-
ไม่ได้กลับบ้านมาเลี้ยงหลานแน่ๆ สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่พักโทษก็เดินสายไปเชียงใหม่ ตัดผมโชว์ร่างกายที่ไร้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ก่อนที่ถัดไปจะเดินทางเยือนที่ทำการพรรคเพื่อไทย พร้อมบอกกับ สส. ด้วยว่าจะลงพื้นที่พบประชาชน ดีลทักษิณกลับบ้านต้องแลกกับอะไรบ้างยังมีหลายทฤษฎี แต่จังหวะก้าวเดินแบบนี้ชัดเจนว่ากลับมาครั้งนี้มีหนึ่งภารกิจสำคัญคือพาพรรคเพื่อไทยพิชิตพรรคก้าวไกล
-
การเมืองขุ่นมัวไม่แพ้ฝุ่นควันที่ปกคลุมประเทศไทย ปรากฏการณ์ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านเชียงใหม่ที่เหมือนเป็นการลงพื้นที่ตรวจราชการมากกว่ากลับบ้าน มีทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี นายกฯ ปัจจุบัน และแคนดิเดตนายกฯ มารวมตัวกันที่เชียงใหม่พร้อมหน้า เรื่องนี้ในภาพรวมไม่เป็นผลดีกับนายกฯ เศรษฐา เพราะย้ำความเชื่อของคนว่าใครคือนายกฯ ตัวจริง ขณะที่ฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลอภิปรายถล่มการทำงบประมาณรัฐบาล โดยเฉพาะการสิ้นเปลืองปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลและเช่ารถประจำตำแหน่ง ทั้งความเชื่อของคนเรื่องนายกฯ ตัวจริง และการอภิปรายของฝ่ายค้านคือเสียงที่ไม่อยากได้ยิน ซึ่งเศรษฐาเคยบอกไว้ว่าคนเป็นผู้นำต้องฟังเสียงนี้
-
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเอกฉันท์เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคก้าวไกล แล้วตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคจากกรณีก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การเมืองไทยก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไร ใครจะเสื่อม ใครจะอาจหาญผงาด
-
ดีลทักษิณกลับไทยสำเร็จไปพร้อมการตั้งรัฐบาลพิเศษที่นำโดย เศรษฐา ทวีสิน สิ่งที่ทุกคนคาดหมายก็กำลังจะเกิดขึ้นคือดีลพา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับบ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างปูทางให้ยิ่งลักษณ์กลับบ้านไว้แล้ว ขณะที่เกมการเมืองในสภาก็ปะทะกันหนักระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงการเลือก สว. ชุดใหม่ หลัง สว. ชุดปัจจุบันจะหมดวาระในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้