Episodes

  • ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ผู้คนมักจะพูดว่า มันดูไม่แฟร์หรือมันดูไม่เหมาะสมที่จะปฏิบัติกับผู้คนอย่างแตกต่างกัน แต่ทว่าการกระทำของแต่ละผู้คนที่เสริมสร้างความเหมาะสมนั้น ทำให้มันแตกต่างกัน ก็เพียงเพราะว่าผู้คนต่างคนก็ต่างบริบท แล้วถ้าคุณเป็นช่างตัดเสื้อ คุณจะไม่สามารถให้เสื้อไซส์เดียวกันกับทุกคนได้เลย อย่างไรก็ตาม ความสำคัญก็คือเราควรมีมาตรฐานการสร้างระเบียบขึ้นมา มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมองค์กรของผมซึ่งจะทำให้มันสดใหม่ได้นั้น จำเป็นต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ให้มาก ยกตัวอย่างเช่น การทำงานในบริษัทมาหลายปี เราก็จึงมีปัจจัยการปฏิบัติกับผู้คนต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การที่จะมีผู้คนที่ไม่ได้จริงใจกับบริษัท ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องปฏิบัติอย่างละเท่า ๆ กันเสมอไป"

    - จงอย่าปฏิบัติกับผู้คนอย่างเท่าเทียมจนเกินไป แต่จงปฏิบัติกับผู้คนอย่างเหมาะสม

    - ปัญหาของการปฏิบัติเท่ากัน มันจึงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นหลายยุคหลายสมัย มันไม่ใช่เพียงแค่ในองค์กรแต่ในครอบครัวก็เช่นกัน

    - ถ้าคนนี้เป็นคนดีในแบบที่ดีจริง ๆ กับอีกคนนึงเป็นคนดี ในแบบที่ไม่ได้ดีจริง ๆ เราควรจะปฏิบัติกับสองคนนี้อย่างไร

    - เมื่อโจทย์ก็คือ ปัจจัยใดบ้างที่มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติของคน ๆ หนึ่งได้ นั่นจึงเป็นสิ่งที่เราต้องไปตามหาที่เหตุนั้น

    - ทั้งนี้ การที่เราจะเป็นช่างตัดเสื้อที่ดีที่สุดในโลก เราจำเป็นต้องรู้ทักษะในการสังเกตความเหมาะสมของสรีระร่างกาย และหาสิ่งที่เข้ากันกับคนนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม

  • หนังสือ มองหน้าหาคู่ ของ อาทิตย์ วรันธรกุล (ซินแสโอ)

    - โหงวเฮ้งคือ ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องใบหน้า ตำแหน่งของใบหน้ามักจะมีความหมายอยู่ทุกจุดเสมอ

    - ถ้าเราอยากจะหาคู่ชีวิตที่ดี จงสังเกตตรงหน้าผาก ขมับ จมูก และริมฝีปาก เพราะมันหมายถึงเรื่องความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ

    - โดยทุกส่วนล้วนมีอายุขัยที่แตกต่างกันไป ช่วงวัยไหนอยู่ตรงไหนก็จะหมายถึง วัยที่เราเข้าไปถึงตรงจุดนั้นมีความหมายอย่างไร

    - ใบหน้าที่เรียวยาว ก็เหมาะสมกับใบหน้าที่มนกลม แน่นอนว่าใบหน้าผสมก็ย่อมหาคู่ชีวิตที่ยากกว่า เพียงเพราะธาตุที่ไม่ลงรอยกับใบหน้าอื่น

    - ทั้งนี้ โหงวเฮ้งเป็นศาสตร์ที่มีความเก่าแก่อย่างยิ่ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและตีความด้วยเสมอ ไม่ปักใจเชื่อเพราะอ่านมา แต่จงสอบทานให้ถึงพร้อม

  • Episodes manquant?

    Cliquez ici pour raffraichir la page manuellement.

  • มีคนมาปรึกษาว่า แฟนชอบขุดเรื่องเก่า ๆ ของเราในด้านไม่ดีมาพูดซ้ำ ๆ แล้วก็จะมาไม่พอใจเราระแวงเรา ทั้ง ๆ ที่เราก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว คบกันมา 4 ปี เรารักเขามาก ๆ เราทุ่มเทให้เขามากเลยค่ะ มีแค่เขาคนเดียว แต่เขาชอบใช้คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี จนเราร้องไห้ทั้งคืนเลย พอเราพยายามอธิบายว่าเราไม่ชอบให้พูดแบบนี้ เขาก็จะเอาแต่บอกว่าไม่เข้าใจ ไม่อยากรับฟัง ควรทำยังไงดีคะ ค่อนข้างเป็นพิษเลย

    - นิสัยของคนเราต่างกัน บางคนชอบขุดเรื่องเก่า ๆ ก็เพียงเพราะเขายังไม่ลืมสิ่งที่เราทำลงไป

    - บางอย่างเราเป็นคนผิด แต่เขาไม่พร้อมที่จะให้อภัยจริง ๆ หรือบางเรื่องมันอาจจะร้ายแรงจนต้องเอามาพูดบ่อย ๆ ก็ได้

    - ถ้าเกิดการที่เราคบหากันแล้วมันไม่มีพื้นที่ในการไปต่อได้จริง ๆ ก็ขอให้ถอยกันคนละก้าว แล้วตัดสินใจอีกทีว่าจะเลิกคบกันไหม

    - ใช้เหตุผลให้มากกว่าอารมณ์ อย่าใช้อารมณ์มากเกินไป เพราะอารมณ์เป็นบ่อเกิดของปัญหาที่ตามมามาก โดยที่เราไม่รู้ตัว

    - ทั้งนี้ สังเกตตัวเองให้ดี ๆ ว่าเราเป็นคนอย่างไร บางคนไม่ค่อยทำผิด แต่ผิดแล้วเขาจำ บางคนทำผิดอย่างบ่อย แต่ผิดแล้วไม่รู้ว่าตัวเองเป็นแบบไหน

  • ข้อความโพสต์จาก Steve Burns ได้เขียนข้อความไว้ว่า "มันดีขึ้นเยอะถ้าเราเพิ่มอัตราเร่งกระบวนการของการใส่ใจผู้คนรอบข้าง"

    - ในรูปเราจะพบว่า ตั้งแต่เกิดมาเราอาจจะยังไม่ค่อยใส่ใจใคร แต่เราจะใส่ใจมากที่สุดในช่วงวัยรุ่น และลดลงฮวบในช่วงวัยกลางคน

    - แถมการอธิบายในรูปก็ย่อมแสดงให้เราทุกคนเห็นว่า มนุษย์แคร์คนมากช่วงหนึ่งเพราะ เขามีความคาดหวังอย่างยิ่ง

    - แต่แล้วพอความคาดหวังหมดสิ้นลง มันก็คือการที่เราหันมาใส่ใจตัวเอง หรือไม่ก็งอกไปฝั่งที่ไม่ใส่ใจใครเลยเข้าไปใหญ่

    - ลองปรับวิถีอัตราเร่งกระบวนการสร้างในเรื่องของความใส่ใจผู้คนสักหน่อย เช่นค่อย ๆ เริ่มไปทีละนิด แล้วค่อยสูงสุดช่วงวัยกลางคนก็ยังได้

    - ทั้งนี้ การเอาใจเขามาใส่ใจเรายังเป็นทักษะที่จำเป็นอยู่เสมอ เราจะต้องตระหนักให้ได้ว่า เราเองยังต้องการคนใส่ใจ เราก็ย่อมต้องใส่ใจผู้คนรอบข้างบ้าง

  • หนังสือ Stock Startup ลงทุนหุ้น VI ของ เอิญ สุริยะฉาย

    - เรียนรู้เรื่องงบการเงินผ่านเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ นั่นก็คือเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่า

    - บริษัทในตลาดหุ้นจะมีหลากหลายอย่างมาก แล้วนับวันบริษัทก็มักจะจดทะเบียนในตลาดหุ้นมากขึ้น

    - มันจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในเรื่องการเงิน ส่วนเคล็ดลับส่วนใหญ่ก็คือให้สนใจเรื่องเกี่ยวกับกระแสเงินสดเป็นหลัก

    - ระยะเวลาที่เราเป็นเจ้าหนี้ควรจะสั้น ส่วนระยะเวลาที่เราเป็นลูกหนี้ควรจะยาว นั่นหมายถึงเรามีอำนาจต่อรองสูงมาก

    - ทั้งนี้ การอ่านงบการเงิน จำเป็นจะต้องอ่านแบบโดยรวม อย่าโฟกัสงบใดงบหนึ่ง แล้วอย่าลืมอ่านหมายเหตุประกอบงบการเงินด้วยเสมอ

  • มีคนมาปรึกษาว่า กำลังตัดสินใจเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวค่ะ เลยอยากรู้ว่ามีคำแนะนำ ที่เป็นการเตือนสติในการใช้ชีวิตหลังจากนี้บ้างไหมคะ อยากอ่านแล้วเหมือนมีผู้ใหญ่ให้กำลังใจหรือตักเตือนเหมือนลูกเหมือนหลานค่ะ อยากได้แบบเวลากลับมาอ่านแล้วใจมันสู้

    - ทุกการตัดสินใจ ล้วนมีคำตอบรอเราอยู่เสมอ แล้วก็แน่นอนว่าฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ

    - ไม่มีอะไรในชีวิตที่เราควรกลัว แต่ก็แน่นอนว่าเราไม่สามารถจะสร้างความกล้าโดยปราศจากความกลัวไปได้เลย

    - ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เช่น พ่อ แม่ ลูก ครบถ้วน แต่มันอาจจะเป็นการที่เราเข้าใจแก่นของชีวิตว่า ทุกอย่างอยู่ที่การใส่ใจกันจริง

    - เอาใจเขามาใส่ใจเรา เพียงแค่คำเดียวก็สามารถเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ คนหนึ่งคนถึงแม้เราอาจจะไม่ได้รักเขา แต่เราก็ควรฝึกที่จะสวมรองเท้าเดียวกับเขาบ้าง

    - ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนมีคุณค่าเป็นของตัวเอง ซึ่งมันจะไม่สามารถมีคำนิยามที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เราทุกคนจึงจำเป็นจะต้องค้นหา ไขว่คว้า และแสวงหาคำนิยามด้วยตัวของเราเอง

  • ข้อความโพสต์จาก Morgan Housel ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ไม่ว่าขณะใดก็ตามแต่ ฉันมักจะทำบางสิ่งบางอย่าง แล้วก็มักจะคิดว่า 'คนที่แปลกประหลาดจะทำแบบนี้ไหม' รวมไปถึงถ้าพวกเขาทำแบบนั้น เราก็ต้องไม่ทำในสิ่งที่เขาทำเท่านั้นเอง"

    - คนที่แปลกมักจะมีความคิดที่ไม่ลงรอยกับความเป็นจริง ซึ่งแน่นอนเขาอาจจะมีความชาญฉลาดอย่างยิ่ง

    - สำรวจตัวเองอยู่เนือง ๆ ว่าตัวเองเป็นคนอย่างไร มีเงื่อนงำใดบ้างที่ทำให้เราเป็นคนแปลกประหลาด เกินจะเยียวยาบ้างไหม

    - บางคนไปตัดสินคนอื่นว่าไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สรุปว่าเขานั่นเองที่เป็นคนไม่ดีอย่างที่เขาไปตัดสินผู้อื่น

    - การบังคับ โน้มน้าวผู้คนโดยขาดเหตุผลที่ดีต่อตัวบุคคลนั้น ๆ เราจะต้องตัดความสัมพันธ์นั้นทิ้งไปให้ไวที่สุด

    - วิธีที่เราจะแยกคนที่แปลกประหลาดออกจากผู้คนทั่วไปนั่นก็คือ การที่บุคคลนั้นเอาใจเขามาใส่ใจเรา พร้อมกับนึกถึงผู้คนอื่นอยู่เสมอ และอ่อนโยนเป็นปกติ

  • หนังสือ Take Charge of Your Life ของ Jim Rohn

    - มีสักกี่คนที่จะควบคุมชีวิตได้อย่างหมดจด ผู้คนส่วนใหญ่แล้วควบคุมไม่ได้แม้กระทั่งความคิดของตัวเอง

    - เมื่อเราควบคุมตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ เราจะสามารถควบคุมผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตได้

    - ไม่มีทางที่ชีวิตจะปล่อยไปตามลม เราไม่สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่คิด พูด หรือกระทำสิ่งใดได้จริง

    - หากเราต้องตัดสินใจอย่างหนึ่งในชีวิต เราจำเป็นจะต้องเลือกทางที่ใช่ที่สุด ที่เหมาะสมกับตัวเราเอง

    - ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เริ่มต้นจากตัวเราเองทั้งหมด อย่าไปเปลี่ยนสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะมันจะเสียเวลาโดยใช่เหตุ

  • มีคนมาปรึกษาว่า ลูกชายอายุ 15 ปี กำลังจะไปตามหาความฝันที่กรุงเทพ แต่โรงเรียนที่ไปไม่มีหอในมีแต่หอนอก ควรจะให้ลูกไปไหมคะ

    - การที่เราต้องปล่อยลูกเราไปจากอ้อมอก เป็นสิ่งที่ยากสำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ แต่มันคือสิ่งที่สักวันหนึ่งก็ต้องทำ

    - สังเกตลูกของตัวเองให้ได้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด เช่น มีความรับผิดชอบไหม มีคำมั่นสัญญาที่ดูหนักแน่นไหม เพราะทุกอย่างมีเหตุผลอยู่เสมอ

    - คนที่จะไปอยู่หอนอก อาจจะต้องควบคุมตัวเองสูงกว่าหอใน เพียงเพราะเราจะสามารถพาใครเข้ามาก็ได้ และมันอาจจะเลยเถิดไปได้ไกล

    - วัฒนธรรมของแต่ละครอบครัวนั้นแตกต่างกัน เราจำเป็นจะต้องชั่งน้ำหนักด้วยดุลยพินิจของครอบครัวเราให้ได้มากที่สุด

    - ทั้งนี้ แต่ละคนก็แต่ละหนึ่ง ถึงแม้เราจะปรึกษาคนนับพัน นับหมื่น แต่ยังไงแล้วคนที่ตัดสินใจครั้งสุดท้ายก็ย่อมเป็นเราอยู่ดี

  • ข้อความโพสต์จาก James Clear ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ยิ่งคุณใช้เวลาไปกับการวิจารณ์กับสิ่งที่คุณควรได้รับ คุณจะเสียเวลาโดยใช่เหตุกับสิ่งที่คุณควรจะสร้างมันขึ้นมา จงโฟกัสในสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้เท่านั้น"

    - มีผู้คนมากมายต้องการที่จะเปลี่ยนสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เช่น จิตใจคน สังคมแวดล้อม รวมไปถึงโลกใบนี้

    - แถมการที่เรามัวแต่รอคอยผลลัพธ์อย่างเดียว โดยที่ไม่ได้ทำเหตุให้ถึงพร้อม ก็ไม่สามารถให้ปลายทางนี้สุขสมได้เลย

    - หากว่าเราเป็นคนที่สงสัยในผลลัพธ์ที่ตัวเองได้ ก็ให้ลองสอบทานตัวเองอีกรอบหนึ่งว่า โลกใบนี้อยุติธรรมกับเราจริง ๆ รึเปล่า

    - ทุกคนย่อมได้สิ่งที่สมควรได้รับ ตามเหตุที่ได้สร้างไว้ สร้างอะไรก็ได้รับอย่างนั้น แล้วก็ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเช่นกัน

    - ทั้งนี้ โลกนี้ให้ผลที่ยุติธรรม โลกใบนี้ไม่เคยรักใคร ชังใคร จะยากดีมีจนแค่ไหนโลกใบนี้ก็ย่อมให้พื้นที่กับบุคคลนั้นเสมอ

  • หนังสือ How to Talk to Anyone: 92 Little Tricks for Big Success in Relationships ของ Leil Lowndes

    - กลวิธีที่ทำให้เราสามารถชนะใจคนได้ นั่นก็คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เปิดใจมองมุมที่เขามองไม่ใช่มองแค่มุมตัวเอง

    - เมื่อมีคนกำลังพูด แล้วเรากำลังทำอะไรอยู่ ถ้าเราตั้งใจฟังเราจะได้การตอบสนองอีกแบบ ส่วนถ้าเราเพิกเฉยเราก็ย่อมได้รับอีกแง่มุมหนึ่ง

    - รอยยิ้ม บางครั้งอาจจะดูเหมือนไม่สำคัญ แต่การสนทนากันเราควรจะยิ้มหรือยินดีไปกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดด้วยเสมอ มันย่อมสร้างเสน่ห์ได้

    - แล้วมันก็เป็นสิ่งที่แน่นอนว่า คนที่จะคุยกันอย่างรู้เรื่อง คุยเรื่องเดียวกัน หรือมีมุมมองเดียวกัน ย่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่เราก็ต้องรับฟังอยู่เสมอ

    - ทั้งนี้ มีคนอยู่สองประเภทที่เมื่อเข้าห้องไปแล้วเขาก็มักจะพูดนั่นคือ คุณอยู่นั่นเองกับฉันอยู่นี่ไง แล้วมันเป็นการย้ำเตือนว่าคนสองประเภทนี้จะมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  • มีคนมาปรึกษาว่า อยากรู้ว่ามีความคิดยังไงกับคำว่า การเลี้ยงลูกและการทำงานบ้านงานเรือนคือหน้าที่ของภรรยาคะ

    - เมื่อโลกใบนี้กำหนดค่านิยามหนึ่งขึ้นมา เช่น คนนี้ต้องทำแบบนี้ คนนั้นต้องทำแบบนั้น นี่เรียกค่านิยม

    - เพศมีการกำหนดค่านิยามขึ้นมา โดยพื้นฐานจากฮอร์โมน วิถีชีวิต และพื้นฐานของผู้คนว่ามีชุดความคิดหนึ่งมากรอบเท่านั้น

    - แต่ถ้าเราพูดถึงการกำหนดหน้าที่ขึ้นมา ไม่ว่าใครก็ตามต้องล้วนมีหน้าที่นั้นเสมอ ไม่ใช่ว่าใครแต่ต้องรวมไปถึงทุกคน

    - บางคนใช้คำพูดประมาณว่า คุณจำเป็นต้องทำหน้าที่นี้ ต้องรับผิดชอบหน้าที่นั้น แต่เจ้าตัวเองกลับไม่มีการรับผิดชอบสิ่งใดเลย

    - ไม่จำเป็นต้องใส่ใจคำพูดทุกคนว่าให้เราต้องทำสิ่งใด จงตระหนักและตื่นรู้ว่าวันนี้เราสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง ที่ให้ชีวิตมวลรวมของเราดีขึ้น

  • ข้อความโพสต์จาก Ray Dalio ได้เขียนข้อความไว้ว่า "มันมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดึงทุกความสงสัย ก็เพราะว่า 1. สิ่งที่ไม่ดีเพียงแค่เล็กน้อย อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ปัญหาใต้พรมปะทุอย่างรุนแรงขึ้นมาได้ 2. การแก้ปัญหาเพียงแค่เล็กน้อยในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง ย่อมป้องกันปัญหาอีกหลายส่วนได้ และ 3. ให้พยายามสร้างวัฒนธรรมที่เน้นความยอดเยี่ยม และความมุ่งมั่นในการจะเล็งเห็นถึงปัญหา ไม่ว่าปัญหามันจะเล็กน้อยเพียงใด มันคือสิ่งที่สลักสำคัญอย่างยิ่ง (ไม่เช่นนั้นปัญหาของเราจะกลายเป็นตัวอย่างที่ยึดถือในค่ากลาง) ส่วนการจัดลำดับความสำคัญก็มักจะเป็นสาเหตุให้เราเพิกเฉยต่อปัญหารอบตัวได้ สังเกตปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรามองข้ามไป หรือเราไม่ได้สนใจมันเท่าที่ควร เพื่อเสริมสร้างความรับรู้ว่ามันคือสิ่งที่ยอมรับได้ รวมไปถึงจะทนทานได้หรือไม่ ให้ลองจิตนาการว่าทุกปัญหาในทุกชิ้นส่วนนั้นถูกทิ้งไปยังอีกห้องหนึ่ง แน่นอนว่าห้องนั้นย่อมมีความสำคัญ แต่มันก็ทำให้เราไม่เจ็บปวดถึงแม้มันจะเข้ามาหาเรา โดยที่เราต้องสนับสนุนความยอดเยี่ยม มันจะช่วยให้ทุกสิ่งดีขึ้นจริง แล้วลำดับถัดไปก็จะทำให้องค์กรมีผลกระทบในทางที่ดีเช่นกัน ในขณะที่คุณไม่ได้หยิบอะไรขึ้นมา คุณก็ไม่ควรที่จะละเลยในการใส่ใจถังขยะนั้น หรือไม่มันก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงที่คุณจะหยิบปัญหา สักชิ้นสองชิ้นระหว่างทางที่คุณไปก็ได้"

    - ดึงทุกความสงสัยเพื่อนำมาใคร่ครวญอยู่อย่างเสมอ

    - ไม่ว่าเราจะเพิกเฉยสิ่งใดไป สิ่งนั้นย่อมย้อนกลับมาหาเราอย่างนั้น แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้ตลอดไป

    - ทุกแง่งามของชีวิตคือสิ่งที่จะเน้นย้ำว่า ตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นใคร แล้วปัญหาที่อยู่ใต้พรมนี้ มันจะสะท้อนอะไรขึ้นมาบ้าง

    - ขยะของปัญหาที่เราทิ้งไปแบบผิดวิธี วันหนึ่งมันจะย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตเราอย่างหาที่สุดมิได้ เราจึงต้องทิ้งให้ถูกที่และถูกเวลาด้วย

    - ทั้งนี้ อนาคตกาลเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นมาแล้ว โดยปัจจุบันขณะนี้เอง ยุคสมัยใหม่กำลังปรากฏขึ้น การหนีปัญหาจะยิ่งลุกลามไปไกลจนเราไม่สามารถวาดฝันไว้ได้เลย

  • หนังสือ The Wise Investor: A Modern Parable About Creating Financial Freedom and Living Your Best Life ของ Rich Fettke

    - เรื่องเล่าของการเงิน อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาทั้งหมดแต่ก็ยังสอดแทรกปรัชญา

    - ชีวิตไม่ได้มีแค่แง่มุมเดียว ผู้คนมักจะคิดเสมอว่าพอมีเงินแล้วทุกอย่างจะจบ แต่บางครั้งก็จบไม่สวยก็มี

    - เรียนรู้กับชีวิตว่า ถ้าเราอยากจะมีอิสรภาพทางการเงิน เราก็จำเป็นจะต้องมีมันอย่างชาญฉลาดด้วยเสมอ

    - เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ถึงแม้วันนี้เราอาจจะยังไม่มีเงิน แต่อย่างน้อยเราก็ต้องเริ่มตั้งคำถามตั้งแต่วันนี้ว่า เราต้องการสิ่งใดกันแน่

    - ความรุ่มรวยอาจจะมิใช่แค่เงินทอง หรือของนอกกาย แต่มันอาจจะหมายถึงความมั่งคั่งของจิตใจและการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ได้อย่างสมดุล

  • มีคนมาปรึกษาว่า อยากปรึกษาค่ะ คือเราเป็นคนติดแฟนมาก แต่มีแฟนอยู่ไทย ส่วนตัวเราเองอยู่ต่างประเทศ อยากคุยกับแฟนเยอะ ๆ แต่แฟนเป็นคนคุยน้อย และเขาก็คงเปลี่ยนมาคุยเยอะกว่าเดิมไม่ได้อีก เลยมีคำถามว่า 1. มีคนมาจีบเราเยอะมาก ๆ มีคนดี ๆ ตามจีบมาเป็นปี แต่เราก็ยังมั่นคงกับแฟน เคยลองคิดว่าคบกับคนใกล้ตัวดีกว่าไหม แต่ผลที่ได้คือไม่สามารถทำแบบนี้ได้จริง ๆ และ 2. ไม่สามารถมองผู้ชายคนอื่นว่าหล่อ หรือน่ารักได้เลยนอกจากแฟนเรา เพราะเขาเป็นคนหน้าตาธรรมดาที่น่ารักที่สุดแล้วในสายตาเรา เลยสงสัยว่าจะเปลี่ยนทัศนคติตัวเองยังไง ให้ไม่งี่เง่างอแงเรื่องที่เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ดีคะ

    - ความรักมันไม่ได้เลือกว่าต้องอยู่ใกล้หรือไกล คนมันจะรักก็คือรักแค่นั้นเลย

    - ปัญหาในตอนนี้คือ อยากให้แฟนเป็นดังใจเราไปเสียทั้งหมด ซึ่งนิสัยบางอย่างถ้าไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในระยะยาวก็ปล่อยไปบ้าง

    - ต้องดูเนื้อในของความเงียบแฟนเราว่า เขาเงียบเพราะไม่มีเรื่องคุย เงียบเพราะปิดบัง หรือเงียบเพราะไม่มั่นใจว่าจะคุยไปได้ยาวจริง ๆ ไหม

    - บางทีความเงียบอาจจะเป็นคำตอบบางอย่างให้เรารับรู้ถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป บางคนเงียบโดยนิสัยก็อาจจะไม่มีอะไร แต่บางคนอาจจะไม่ใช่

    - ทั้งนี้ การที่เราพยายามหาคนรักคนอื่นเพื่อดีกว่าแฟนเรา มันอาจจะไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะถ้าเราชอบคนอื่นจริง ๆ เราจะไม่ต้องพยายามขนาดนั้น

  • ข้อความโพสต์จาก Simon Sinek ได้เขียนข้อความไว้ว่า "บริษัทใหญ่โตส่วนใหญ่มักจะล้มเหลว ก็เพียงเพราะเขาลืมว่าเขาสร้างบริษัทนั้นมาเพราะเหตุใด"

    - จุดเริ่มต้นนั้นสำคัญที่สุด มันคือจุดที่เราจะต้องกลับไปสู่ฐานอยู่เสมอ เหมือนกลับบ้านไปบ่มเพาะตัวเอง

    - มีผู้คนมากมายหลงคิดไปว่า การออกเดินทางคือการบ่มเพาะ แต่ในความเป็นจริงแล้วประสบการณ์นั่นแหละเป็นตัวชี้วัด

    - การกลับมาทบทวน สอบทาน และทดสอบ จะช่วยให้บริษัทและชีวิตของตนเองดีขึ้นได้มาก มันคือวิถีของปรมาจารย์

    - ยิ่งเดินทางออกจากบ้านไปนานมากเพียงใด ก็ย่อมต้องใช้เวลาบ่มเพาะนานเท่านั้น ธรรมชาติคือครูชั้นเลิศที่จะมาสั่งสอนเรา

    - บริษัทที่จะยืนหยัดต่อสู้ไปได้ คือบริษัทที่ยังคงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจอยู่เสมอ รวมถึงไม่เพิกเฉยต่อการปรับตัวใด ๆ เลย

  • หนังสือ Success Through a Positive Mental Attitude ของ Napoleon Hill and W. Clement Stone

    - ชีวิตเราจะมีทั้งความคิดในแง่บวก และความคิดในแง่ลบ ซึ่งทั้งสองความคิดนี้กำลังกำหนดวิถีชีวิตเราอยู่

    - ถ้าเราปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จ เราจะต้องมองไกล มองกว้าง และมองลึกซึ้ง ในสิ่งที่หมุดหมายไว้

    - ความขี้เกียจบ้าง อาจจะเป็นสิ่งที่ดี แต่การขี้เกียจตัวเป็นขนแบบนี้จะทำให้ชีวิตมวลรวมตกต่ำลงอย่างหาที่สุดมิได้

    - ความจริง ความมุ่งมั่น และความกล้าหาญ จะมาเป็นส่วนช่วยเหลือให้ปัญหาชีวิตของเราถูกลดทอนลงไปมาก

    - ทั้งนี้ มุมมองคือวิถี ทิศทางคือการเลือกเดิน เราจึงจะต้องใส่ใจเรื่องวิถีทางในการดำเนินชีวิตไปให้มากที่สุด

  • มีคนมาปรึกษาว่า รบกวนปรึกษาค่ะ คือตอนนี้เราคบกับผู้ชายสิงคโปร์ เราทำงานกลางคืนที่นี่ เขาแต่งงานแล้วแต่ภรรยาเป็นคนไทย แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะมีเหตุจำเป็นที่เขาเข้าประเทศสิงคโปร์ยังไม่ได้ แต่เขาก็กำลังยื่นเรื่องพาภรรยากลับมา เราคบกันมาสักพัก เกือบ 3 เดือน ถึงรู้ว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว เขาพาเราเข้าไปนอนบ้าน แล้วที่ไม่รู้เพราะเขาไม่เคยให้โซเชียลมีเดีย จนเพื่อนเขามาบอกว่าแฟนเราแต่งงานแล้ว เราก็ทักไปหาภรรยาเขา และรับปากว่าจะเลิกคุย แต่เราเลิกไม่ได้ เพราะเขาบอกจะเลิกกับภรรยาให้เรารอ จนภรรยาเขาจับได้อีกครั้งว่าเรายังคุยกัน เราก็รับปากอีกว่าเราจะเลิกคุย แต่เราก็เลิกไม่ได้จริง ๆ เพราะมันรักไปแล้ว ตอนนี้เราแอบคุยกับเขาแต่มันทรมานมากค่ะ เราสามารถไปอยู่กับเขาที่บ้านได้ เพราะเขาอยู่คนเดียว แต่เราไม่สามารถเปิดตัวในโซเชียลได้ เพราะเขาก็ขึ้นสถานะว่าแต่งงานแล้ว มันเลยเหมือนว่าไม่สามารถทำให้เรารู้สึกเป็นตัวจริงได้เลย มันรู้สึกเจ็บมากเลยค่ะ เราจะทำยังไงดี ใจก็อยากรอให้เขาเลิกและหย่ากับภรรยาแบบที่เขาบอก แต่เขาบอกว่าเขาจะค่อย ๆ เลิกกับภรรยา เพราะกลัวภรรยาฟ้องค่ะ เราควรรอเขาต่อไปดีไหมคะ

    - คำว่าเป็นเบอร์สอง เราก็ต้องอยู่แบบเบอร์สองต่อไป บางครั้งเหมือนว่าเรากำลังฝันอยู่ว่าเมื่อไหร่เราจะได้เป็นเบอร์หนึ่ง

    - จงเลือกและอยู่ในจุดที่ใช่ในสิ่งที่เราปรารถนาจริง ๆ ไม่ใช่ว่าพอรู้ความจริงแล้วก็บอกว่า ฉันรักเขาไปแล้ว ฉันจึงยอมแบบนี้ไม่โอเค

    - การใช้โซเชียลเป็นตัวชี้วัดว่าคน ๆ นี้มีแฟนไหม แต่งงานหรือยัง แบบนี้อาจจะช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่บางคนก็ไม่ได้ลงอะไรมาก

    - ถ้าเรารู้ความจริงทั้งหมด แล้วเราอยากจะมีชีวิตที่มีความสุข สงบ และทรงพลังอย่างแท้จริง ให้เราเลือกทางที่ถูกต้อง

    - ทั้งนี้ ถูกใจหรือถูกต้องจำเป็นจะต้องเลือกสรรให้ดี ๆ ไม่เช่นนั้นชีวิตเราจะถูกเหวี่ยงไปยังจุดที่ไม่ใช่ตลอดเวลา

  • ข้อความโพสต์จาก Robert Kiyosaki ได้เขียนข้อความไว้ว่า "ต้องขอโทษด้วย ฉันหมายถึงการจะเป็นผู้ประกอบการและจะไม่ทำงานประจำอีกเด็ดขาด ขอบคุณ"

    - มุมมองของการทำงานประจำกับการเป็นผู้ประกอบการ คือสิ่งที่เป็นเพียงแค่แง่มุมหนึ่งเท่านั้น

    - ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวว่า เราจะต้องเดินทางไหน แต่ให้สอบทานตัวตนที่แท้จริงว่าเราต้องการสิ่งใด

    - วาสนาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนกับคำที่ว่าแข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งวาสนาแข่งกันไม่ได้

    - หน้าที่เราคือตัดสินใจ ขอโทษที่เราไม่ได้ทำงานประจำ แล้วก็ขอบคุณที่เราเลือกทางที่เป็นผู้ประกอบการ

    - ทั้งนี้ ไม่มีทางใดที่ดีที่สุดในชีวิต จงเลือกเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก ห้ามเพิกเฉยสัญญาณในการเลือกอย่างเด็ดขาด

  • หนังสือ The Sleep Prescription: Seven Days to Unlocking Your Best Rest ของ Aric Prather

    - การนอนหลับเป็นยาชั้นเลิศที่เราต้องเคารพมัน ซึ่งเราจะไม่สามารถต่อรองกับมันได้เลย

    - บางคนมีปัญหาการนอนหลับตั้งแต่เด็ก มันจึงเป็นสิ่งที่เราต้องน้อมนำการนอนว่า มันไม่ง่ายเลยที่จะนอนหลับให้สนิท

    - แม้กระทั่งการกินก็ย่อมส่งผลให้เรานอนหลับได้ดี และการสะสมพลังในการนอนหลับเพื่อวันใหม่ด้วย

    - ตั้งเวลาการนอนหลับ และตื่นอย่างเป็นระบบ ร่างกายจะจดจำเวลาที่ร่างกายต้องการอยู่เสมอ อย่าเลื่อนเวลานอนอย่างเด็ดขาด

    - ทั้งนี้ สุขภาพกายเป็นสิ่งที่จะขับเคลื่อนชีวิตไปข้างหน้าได้ เปรียบเสมือนสารถีที่เราจะต้องใช้งาน จงดูแลรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุด