Episódios

  • “พระองค์​ได้​ทรง​นำ​เถา​องุ่น​ออก​มา​จาก​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต: ได้​ทรง​ขับไล่​ชน​ต่าง​ประเทศ​ไป​เสีย, แล้ว​ทรง​ปลูก​เถา​องุ่น​นั้น​ไว้. พระองค์​ได้​ทรง​ปราบ​ที่​ตรงหน้า​เถา​องุ่น​นั้น, และ​เถา​นั้น​ก็​ลงราก​ลึก​แผ่​ไป​จน​เต็ม​ทั่ว​แผ่น​ดิน. ร่ม​เถา​องุ่น​นั้น​ได้​ปกคลุม​ภูเขา​ไว้, และ​กิ่ง​ก็​เหมือน​ต้นสน​อัน​สูง​งดงาม.

    ข้า​แต่​พระเจ้า​แห่ง​พล​โยธา, ข้าพ​เจ้า​ขอ​วิงวอน​พระองค์, ขอ​พระองค์​ทรง​กลับ​พระทัย: ทอด​พระเนตร​จาก​สวรรค์​พิจารณา​ดู, และ​โปรด​เสด็จ​มา​เยี่ยมเยียน​เถา​องุ่น​นี้, ขอ​ป้องกัน​เถา​ซึ่ง​พระ​หัตถ์​เบื้องขวา​ของ​พระองค์​ได้​ทรง​ปลูก​ไว้, และ​ขอ​ทรง​บำรุงเลี้ยง​ให้​มี​กำลัง​มาก​ไว้​สำหรับ​พระองค์.

    ขอ​ทรง​โปรด​ให้​พระ​หัตถ์​ของ​พระองค์​อยู่​ฝ่าย​บุรุษ​ที่อยู่​ข้าง​พระ​หัตถ์​เบื้องขวา​ของ​พระองค์, คือ​อยู่​ฝ่าย​บุตร​มนุษย์​นั้น​ที่​พระองค์​ได้​ทรง​บำรุง​ให้​มี​กำลัง​มาก​ไว้​สำหรับ​พระองค์. เพื่อ​พวก​ข้าพ​เจ้า​จะ​ไม่​ถอย​ไป​จาก​พระองค์: ขอ​ทรง​โปรด​ให้​พวก​ข้าพ​เจ้า​ตื่น​ฟื้น​(คืนชีพ) ขึ้น, พวก​ข้าพ​เจ้า​จึง​จะ​ได้​ร้อง​ทูล​ออก​พระ​นาม​ของ​พระองค์. ข้า​แต่​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​แห่ง​พล​โยธา, ขอ​ทรง​โปรด​ (ฟื้นฟู) ให้​พวก​ข้าพ​เจ้า​กลับคืน​อีก; ขอ​ให้​พระ​พักตร​ของ​พระองค์​ส่องแสง​ออก​มา, พวก​ข้าพ​เจ้า​จึง​จะ​ได้​รอด”

    ‭‭บทเพลง​สรรเสริญ‬ ‭80‬:‭8‬-‭10‬, ‭14‬-‭15‬, ‭17‬-‭19‬

  • “ขอ​อย่า​ทรง​ถือโทษ​พวก​ข้าพ​เจ้า​เมื่อ​ทรง​ระลึก​ถึง​การ​อสัตย์​อธรรม​ของ​บรรพบุรุษ​นั้น; ขอ​ให้​พระ​กรุณา​อัน​อ่อน​ละมุน​ของ​พระองค์​มา​ประสพ​พวก​ข้าพ​เจ้า​โดยเร็ว​เถิด; เพราะ​พวก​ข้าพ​เจ้า​เสื่อมถอย​น้อย​ลง​ไป​มาก​แล้ว. ข้า​แต่​พระเจ้า​ผู้​เป็น​เหตุ​แห่ง​ความ​รอด, ขอ​ทรง​โปรด​ช่วย​ข้าพ​เจ้า, เพราะ​เห็นแก่​พระ​เกียรติยศ​แห่ง​พระ​นาม​ของ​พระองค์; ทรง​โปรด​ช่วย​พวก​ข้าพ​เจ้า​ให้​รอด, และ​ลบล้าง​ความผิด​เพราะ​เห็นแก่​พระ​นาม​ของ​พระองค์.

    ฝ่าย​พวก​ข้าพ​เจ้า​ผู้​เป็น​พล​ไพร่​ประดุจ​สัตว์เลี้ยง​ของ​พระองค์​จะ​สนอง​พระ​เดช​พระ​คุณ​เป็นนิตย์: จะ​กล่าว​สรรเสริญ​พระองค์​ทุก​ชั่ว​อายุ​ต่อๆ ไป”

    ‭‭บทเพลง​สรรเสริญ‬ ‭79‬:‭8‬-‭9‬, ‭13‬ ‭TH1940‬‬

  • Estão a faltar episódios?

    Clique aqui para atualizar o feed.

  • “ขณะนั้น​พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “จง​ไป​หา​ฟา​โร​บอก​ว่า, ‘ยะ​โฮ​วา, พระเจ้า​ของ​ชาติ​เฮ็บ​ราย​นั้น, ตรัส​ดังนี้​ว่า, “จง​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ไป, เพื่อ​เขา​จะ​ได้​ปรนนิบัติ​เรา. ถ้า​ท่าน​ยัง​ยึดเหนี่ยว​เขา​ไว้​ไม่​ยอม​ปล่อย​ให้​ไป, นี่แหละ หัตถ์​ของ​ยะโฮ​วา​จะ​กระทำ​แก่​ฝูง​สัตว์​ใน​ทุ่งนา, ฝูง​ม้า, ฝูง​ลา, ฝูง​อูฐ, ฝูง​โค​และ​ฝูง​แกะ​เป็นต้น​ให้​เกิด​เป็น​โรคภัย​อย่าง​ร้าย​ขึ้น. ยะ​โฮ​วา​จะ​แยก​ฝูง​สัตว์​ของ​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​จาก​ฝูง​สัตว์​ของ​ชาติ​อาย​ฆุบ​โต; สัตว์​ของ​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​จะ​ไม่​ตาย​เลย​สัก​ตัว​เดียว.’ ” พระ​ยะ​โฮ​วา​นี้​ทรง​กำหนด​เวลา​ไว้​ว่า, “พรุ่งนี้​เรา​จะ​ให้​เหตุการณ์​บังเกิด​ขึ้น ณ แผ่น​ดิน.” เมื่อ​รุ่งขึ้น​พระ​ยะ​โฮ​วา​ก็ได้​ทรง​กระทำ​ดังนั้น; ฝูง​สัตว์​ทุกอย่าง​ของ​ชาติ​อาย​ฆุบ​โต​ก็​ตาย; แต่​สัตว์​ของ​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​ไม่​ตาย​สัก​ตัว​เดียว. พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​และ​อา​โรน​ว่า, “เจ้า​จง​กำ​มูล​เถ้า​ออก​จาก​เตา​สอง​กำมือ, แล้ว​ให้​โม​เซ​ซัด​ขึ้น​ไป​บน​อากาศ​ต่อหน้า​ของ​ฟา​โร. มูล​เถ้า​นั้น​จะ​กลาย​เป็น​ผงคลี​ดิน​ทั่ว​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต, ทำ​ให้​เกิด​เป็น​ฝี​แตก​ลาม​ทั้ง​กาย​มนุษย์​และ​สัตว์​เดียร​ฉาน​ตลอด​ประเทศ.” พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “จง​ตื่น​แต่เช้า, ไป​ยืน​ต่อหน้า​ฟา​โร, บอก​ว่า, ‘ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​ชาติ​เฮ็บ​ราย​ตรัส​ดังนี้​ว่า, “จง​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ไป​เพื่อ​ให้​ปรนนิบัติ​เรา. ด้วยว่า​คราวนี้​เรา​จะ​บันดาล​ให้​เกิด​สรรพ​โรค​ร้าย​แก่​ท่าน, และ​ข้าราชการ, และ​แก่​พล​เมือง; เพื่อ​ฟา​โร​จะ​ได้​รู้​แน่​ว่า​ทั่ว​โลก​ไม่​มี​ผู้ใด​จะ​เปรียบ​เสมอ​กับ​เรา​ได้ น่า​ที่​เรา​จะ​ได้​ยก​หัตถ์​ขึ้น​ประหาร​ฟา​โร​และ​พล​ไพร่​ด้วย​โรคภัย​ให้​ตาย​ไป​จาก​โลก​เสีย​นาน​แล้ว; แต่​เหตุ​ที่​เรา​ยัง​ให้​ฟา​โร​ดำรง​ชีวิต​อยู่ ก็​เพื่อ​จะ​ให้​ฟา​โร​เห็น​ฤทธานุ​ภาพ​ของ​เรา, และ​เพื่อ​นาม​ของ​เรา​จะ​ได้​ลือ​กระฉ่อน​ไป​ทั่ว​โลก. ฟา​โร​ยัง​จะ​มี​มานะ​ต่อสู้​พล​ไพร่​ของ​เรา, ไม่​ยอม​ปล่อย​เขา​ไป​อีก​หรือ? นี่แหละ​จง​ดู​เถิด, พรุ่งนี้​ประมาณ​เวลา​นี้​เรา​จะ​บันดาล​ให้​ลูก​เห็บ​ตก​มา​ทรมาน, อย่าง​ที่​ไม่​เคย​เห็น​มี​ใน​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​ตั้งแต่แรก​เป็น​ประเทศ​มา​จนถึง​ทุกวันนี้. เหตุ​ฉะนั้น​จง​ไป​ต้อน​ฝูง​สัตว์​และ​คน​ทั้ง​หลาย​ที่อยู่​ใน​ทุ่งนา​ให้​รีบ​เข้า​มา; เพราะ​คน​ทุกคน​และ​สัตว์​ทุก​ตัว​ที่อยู่​ใน​ทุ่งนา​ที่​มิได้​เข้า​มา​อยู่​ใน​บ้าน, ลูกเห็บ​จะ​ตก​ถูก​ตาย​หมด.’ ” ฝ่าย​ข้าราชการ​ของ​กษัตริย์​ฟา​โร​ทุกคน​ที่​ได้​เกรงกลัว​พระ​ดำรัส​ของ​พระ​ยะ​โฮ​วา, ก็​ให้​บ่าว​รีบ​ออก​ไป​ไล่​สัตว์​ของ​ตน​กลับ​เข้า​บ้าน: และ​ผู้​ที่​ไม่​เชื่อฟัง​พระ​ดำรัส​ของ​พระ​ยะ​โฮ​วา​ก็​ปล่อย​ให้​บ่าวไพร่​และ​สัตว์​ของ​ตน​อยู่​ที่​ทุ่งนา พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “จง​ชูมือ​ขึ้น​ใน​อากาศ, เพื่อ​จะ​ได้​ให้​ลูกเห็บ​ตก​ทั่ว​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต, บน​มนุษย์, บน​สัตว์, และ​บน​ผัก​หญ้า​ทุกอย่าง​ซึ่ง​อยู่​ใน​ทุ่งนา, ตลอด​ใน​ประเทศ​นั้น.” โม​เซ​ก็​ชู​ไม้เท้า​ขึ้น​ใน​อากาศ: แล้ว​พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ทรง​บันดาล​ให้​มี​ฟ้าร้อง, มี​ลูกเห็บ​และ​ไฟฟ้า​ตกลง​มา​บน​พื้นดิน; กับ​ได้​บันดาล​ให้​ลูก​เห็บ​ตก​ทั่ว​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต. ลูกเห็บ​กับ​ไฟฟ้า​ตกลง​มา​พร้อมกัน, เป็น​ที่​ทรมาน​ยิ่ง​นัก; การ​เช่นนี้​ไม่​เคย​มี​ใน​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​แต่แรก​ตั้ง​เป็น​ประเทศ​มา. สิ่ง​สาร​พัตร​ที่อยู่​ใน​ทุ่งนา​ทั่ว​อา​ณาเขตต์​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​ลูก​เห็บ​ก็ได้​ทำลาย​เสีย​สิ้น; ทั้ง​มนุษย์​และ​สัตว์, กับ​ต้น​ผัก​และ​ต้นไม้​ทุก​อย่าง​ก็​หัก​โค่น​ล้ม​ลง. เว้นไว้แต่​เมือง​โฆเซ็น, ที่​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​อยู่​นั้น, หา​มี​ลูก​เห็บ​ไม่ กษัตริย์​ฟา​โร​จึง​รับสั่ง​ให้​โม​เซ​และ​อา​โรน​มา​เฝ้า, แล้ว​ว่า, “ใน​ครั้งนี้​เรา​ก็​ได้​ผิด​แล้ว: พระ​ยะ​โฮ​วา​เป็น​ผู้​ซื่อตรง, แต่​เรา​กับ​พล​เมือง​ของ​เรา​ได้​ทำ​ผิด. ขอ​ท่าน​ได้​วิงวอน​ขอ​แด่​พระ​ยะ​โฮ​วา; เนื่อง​ด้วย​มี​ฟ้าร้อง​และ​ลูกเห็บ​พอ​ทำ​ให้​เรา​เข็ด​แล้ว; เรา​จะ​ปล่อย​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ไม่​กัก​ไว้​อีก​ต่อไป. โม​เซ​ทูล​ว่า, “เมื่อ​ข้าพ​เจ้า​ออก​ไป​จาก​กรุง​นี้​แล้ว, ข้าพ​เจ้า​จะ​ยก​มือ​ทั้ง​สอง​ทูล​พระ​ยะ​โฮ​วา: เสียง​ฟ้า​ร้อง​ก็​จะ​เงียบ​และ​จะ​ไม่​มี​ลูกเห็บ​ตก​อีก​ต่อไป; เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​ทราบ​ว่า​โลก​นี้​เป็น​ของ​พระ​ยะ​โฮ​วา. เมื่อ​กษัตริย์​ฟาโร​ทราบ​ว่า​ฝน​กับ​ลูกเห็บ​และ​ฟ้า​ร้อง​นั้น​หยุด​ไป​แล้ว, ท่าน​กลับ​ทำ​ผิด​ต่อไป​อีก​และ​พระทัย​ก็​แข็ง​กะด้าง​ไป, ทั้ง​ท่าน​และ​ข้าราชการ​ของ​ท่าน​ด้วย.”

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭9‬:‭1‬-‭6‬, ‭8‬-‭9‬, ‭13‬-‭29‬, ‭34‬ ‭TH1940‬‬

  • “พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “เรา​จะ​นำ​มหาภัย​มา​ยัง​กษัตริย์​ฟา​โร​และ​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​อีก​อย่างหนึ่ง; ภาย​หลัง​ท่าน​จะ​ปล่อย​พวก​เจ้า​ไป​จาก​ที่นี่: เมื่อ​ท่าน​ให้​พวก​เจ้า​ไป​คราวนี้, ท่าน​จะ​ขับไล่​พวก​เจ้า​ออก​ไป​ทีเดียว. บัดนี้​เจ้า​จง​สั่ง​พล​ไพร่​ชาย​หญิง​ทั้งปวง​ให้​ขอ​เครื่องเงิน​และ​เครื่อง​ทอง​คำ​มา​จาก​เพื่อนบ้าน​ของ​ตน.” พระ​ยะ​โฮ​วา​ก็​ทรง​บันดาล​ให้​ชาว​อาย​ฆุบ​โต​เอื้อเฟื้อ​ต่อ​พล​ไพร่​นั้น. ส่วน​โม​เซ​ยิ่ง​เป็น​ที่​นับถือ​มาก​ใน​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต, คือ​ต่อหน้า​ข้า​ราชการ​และ​พล​ไพร่​ทั้งปวง โม​เซ​ได้​ประกาศ​ว่า, “พระ​ยะ​โฮ​วา​ตรัส​ดังนี้​ว่า, ‘เวลา​ประมาณ​เที่ยงคืน​เรา​จะ​ออก​ไป​ท่า​ม​กลาง​ประ​เทศ​อาย​ฆุบโต; และ​บุตร​หัวปี​ทั้งหมด​ใน​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต, ตั้งแต่​ราช​บุตร​หัวปี​ของ​กษัตริย์​ฟา​โร​ผู้​ประทับ​บน​พระที่นั่ง, จนถึง​บุตร​หัวปี​ของ​ทา​สี​ซึ่ง​โม่​แป้ง, ทั้ง​ลูก​หัวปี​ของ​สัตว์​เดียร​ฉาน​ด้วย​จะ​ตาย. ใน​คราว​นั้น​จะ​บังเกิด​การ​พิลาป​ร้องไห้​ทั่ว​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต, อย่าง​ที่​มิได้​เคย​มีแต่​ก่อน, และ​ต่อไป​ภาย​หน้า​ก็​จะ​ไม่​มี​อะไร​อีก​เลย.’ ฝ่าย​ข้าง​ชน​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​นั้น​จะ​ไม่​มี​เหตุ​ที่​น่า​วิตก​แก่​คน​หรือ​แก่​สัตว์​พาหนะ​แม้แต่​เสียง​สุนัข​หอน: เพื่อ​จะ​เป็น​ที่​แสดง​ให้​ทราบ​ว่า, พระ​ยะ​โฮ​วา​ทรง​จัดการ​ใน​ระหว่าง​ชาติ​อาย​ฆุบ​โต​กับ​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​ให้​ผิด​กัน​อย่างไร. พระ​ยะ​โฮ​วา​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “ฟา​โร​จะ​ไม่​เชื่อฟัง​เจ้า; เพื่อ​การ​อัศจรรย์​ของ​เรา​จะ​ได้​เพิ่ม​ขึ้น​อีก​ใน​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต.””

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭11‬:‭1‬-‭7‬, ‭9‬ ‭TH1940‬‬

  • “พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “จง​เข้า​ไป​หา​ฟาโร​อีก: เพราะ​เรา​ได้​ให้​ใจ​ของ​ฟาโร​และ​ใจ​ของ​ข้าราชการ​แข็ง​กะด้าง​ไป, เพื่อ​จะ​แสดง​การณ์​สำคัญ; ของ​เรา​ใน​ท่าม​กลาง​เขา, เพื่อ​เจ้า​จะ​ได้​เล่า​การณ์​สำคัญ​ที่​เรา​ได้​กระทำ ณ ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​ให้​ลูกหลาน​ฟัง, คือ​การณ์​สำคัญ​ซึ่ง​เรา​ได้​สำแดง​ท่ามกลาง​เขา​นั้น; เพื่อ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​รู้​ว่า​เรา​คือ​ยะ​โฮ​วา.” โม​เซ​และ​อาโรน​จึง​ได้​เข้า​ไป​เฝ้า​กษัตริย์​ฟาโร​ทูล​ว่า, “พระ​ยะ​โฮ​วา, พระ​เจ้า​แห่ง​ชา​ติ​เฮ็บ​ราย, ได้​ตรัส​ดังนี้​ว่า, ‘ฟาโร​จะ​ขัด​ขืน​ไม่​ยอม​อ่อน​น้อม​ต่อ​เรา​นาน​ไป​สัก​เท่าใด? จง​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ให้​ไปปร​นิบัติ​เรา. ถ้า​แม้​ยัง​ไม่​ยอม​ปล่อย​ให้​พล​ไพร่​ของ​เรา​ไป, พรุ่งนี้​เรา​จะ​ให้​ตั๊ก​แตน​เข้า​มา​ทั่ว​อาณา​เขตต์: ฝ่าย​ข้าราชการ​ได้​ทูล​กษัตริย์​ฟาโร​ว่า, “คน​นี้​จะ​เป็น​บ่วง​แร้ว​ดัก​เรา​นาน​ไป​สัก​เท่าไร? ขอ​ทรง​พระ​กรุณา​โปรด​ปล่อย คน​เหล่านั้น​ให้​ไป​ปรนนิบัติ​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระ​เจ้าของ​เขา​เถิด: พระองค์​ยัง​ไม่​ทรง​ทราบ​อีก​หรือ​ว่า​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​พินาศ​เสีย​แล้ว?” กษัตริย์​ฟาโร​จึง​รับสั่ง​ให้​โม​เซ​และ​อา​โรน​เข้า​มา​เฝ้า​อีก: จึง​ตรัส​ว่า, “จง​ไป​ปรนนิบัติ​พระ​ยะโฮ​วา​พระ​เจ้า​ของ​เจ้า; แต่​จะ​เอา​ใคร​ไป​บ้าง?” โม​เซ​ทูล​ว่า, “ข้าพ​เจ้า​จะ​ต้อง​พา​กัน​ไป​ทั้งคน​หนุ่ม​คนแก่; บุตรชาย​กับ​บุตรหญิง, และ​ฝูง​สัตว์​ทั้ง​ใหญ่​ทั้ง​เล็ก, เพราะ​ข้าพ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ต้อง​ทำ​การ​เลี้ยง​ประกอบ​พิธี​นมัสการ​แด่​พระ​ยะ​โฮ​วา.” กษัตริย์​ฟา​โร​จึง​ตรัส​แก่​เขา​ทั้ง​สอง​ว่า, “ถ้าแม้​จะ​ให้​เรา​ยอม​ให้​เจ้า​กับ​บุตร​ไป​ด้วย​กัน, ก็​ให้​พระ​ยะ​โฮ​วา​เข้าข้าง​พวก​เจ้า​เถิด: ระวัง​ตัว​ให้​ดี​เถอะ, เจ้า​กำลัง​มุ่ง​ไป​ใน​ทาง​ทุจ​จริต​เสียแล้ว, อนุญาต​ไม่​ได้: พา​ฉะ​เพาะ​แต่​ผู้ชาย​ไป​ปรนนิบัติ​พระ​ยะ​โฮ​วา, ตาม​ที่​เจ้า​ได้​ขอ​ไว้​นั้น​แห​ละ​ได้.” แล้ว​โม​เซ​กับ​อา​โรน​ก็​ถูก​ขับไล่​ให้​ออก​ไป​เสีย​จาก​พระ​พักตรฟา​โร ครั้งนั้น​กษัตริย์​ฟา​โร​ได้​รีบ​มี​รับสั่ง​ให้​หา​โม​เซ​และ​อา​โรน​เข้าเฝ้า; จึง​ตรัส​ว่า, “เรา​ได้​ทำ​ผิด​ต่อ​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​เจ้า, และ​ต่อ​เจ้า​ทั้ง​สอง​ด้วย. ขอ​เจ้า​จง​ยกโทษ​ความผิด​ให้​เรา​ครั้งนี้​อีก​ครั้ง​เดียว; จง​วิงวอน​ขอ​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​เจ้า, เพื่อ​อย่าง​น้อย​พระองค์​จะ​ได้​ทรง​โปรด​บันดาล​ให้​ภัยพิบัติ​นี้​พ้น​ไป​จาก​เรา.” ฝ่าย​พระ​ยะ​โฮ​วา​ทรง​บันดาล​ให้​ลม​กล้า​พัด​กลับ​มา​แต่​ทิศตะวันตก, หอบ​ฝูง​ตั๊ก​แตน​ไป​ตกใน​ทะเลแดง, จน​ไม่​มี​เหลือ​สัก​ตัว​เดียว​ตลอด​อา​ณาเขตต์​อาย​ฆุบ​โต. แต่​พระ​ยะโฮ​วา​ได้​ทรง​ให้​พระทัย​ของ​กษัตริย์​ฟาโร​แข็ง​กะ​ด้าง​ไป​อีก, ไม่​ยอม​ปล่อย​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​ไป พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “จง​ชูมือ​ของ​เจ้า​ขึ้น, จะ​เกิด​มี​ความ​มืด​ทึบ​ทั่ว​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต.” โม​เซ​จึง​ชูมือ​ขึ้น, แล้ว​ก็​เกิด​มี​ความ​มืด​ทึบ​ทั่วไป​ใน​ประ​เทศ​อาย​ฆุบ​โต​ตลอด​สาม​วัน; เขา​มิได้​เห็น​ซึ่งกันและกัน, ไม่​มี​ใคร​ลุก​ขึ้น​ไป​จาก​ที่​ตลอด​สาม​วัน: ฝ่าย​บรรดา​ชนชาติ​ยิศ​รา​เอล​นั้น​มี​แสงสว่าง​อยู่​ใน​บ้านเรือน​ของ​เขา. กษัตริย์​ฟา​โร​จึง​มี​รับสั่ง​ให้​หา​โม​เซ​เข้า​มา​ตรัส​ว่า, “พวก​เจ้า​จง​ไป​ปรนนิบัติ​พระ​ยะ​โฮ​วา​พร้อมทั้ง​บุตร​ทั้ง​หลาย​ของ​เจ้า​ได้; เว้น​แต่​ให้​ละ​ฝูง​สัตว์​ทั้ง​ใหญ่​ทั้ง​เล็ก​ไว้.” ฝ่าย​โม​เซ​จึง​ทูล​ว่า, “ต้อง​โปรด​ประทาน​ให้​มี​เครื่องบูชา​ยัญ​และ​บูชา​เพลิง​ติด​มือ​ไป​ด้วย; เพื่อ​ข้าพ​เจ้า​จะ​ได้​บูชา​แด่​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​ข้าพ​เจ้า​ทั้ง​หลาย. ฝูง​สัตว์​ของ​ข้าพ​เจ้า​นั้น​ต้อง​นำ​ไป​ด้วย; ไม่​ให้​ขาด​สัก​กีบ​เดียว; เพราะว่า​จะ​ต้อง​เลือก​สัตว์​จาก​ฝูง​เหล่านั้น​บูชายัญ​แด่​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระ​เจ้า​ของ​ข้าพ​เจ้า; ข้าพ​เจ้า​ยัง​ไม่​ทราบ​ว่า​จะ​ต้อง​การ​สัตว์​ใด​บูชายัญ​แด่​พระองค์, กว่า​จะ​ไป​ถึง​ที่นั่น​แล้ว.” แต่​พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ทรง​ให้​พระทัย​กษัตริย์​ฟา​โร​แข็ง​กะ​ด้าง​ไม่​ยอม​ปล่อย​เขา​ไป. กษัตริย์​ฟา​โร​ได้​รับ​สั่ง​แก่​โม​เซ​ว่า, “ไป​ให้​พ้น, จง​ระวัง​ตัว​ให้​ดี​เถอะ, อย่า​ได้​มา​เห็น​หน้า​ของ​เรา​อีก​เลย; เพราะ​ถ้า​เจ้า​เห็น​หน้า​เรา​ใน​วัน​ใด, เจ้า​ก็​จะ​ต้อง​ตาย​ใน​วัน​นั้น.” โม​เซ​จึง​ทูล​ว่า, “ท่าน​ได้​ตรัส​ถูก​แล้ว; ข้าพ​เจ้า​จะ​ไม่​มา​เห็น​พระ​พักตร​ของ​พระองค์​อีก​เลย.””

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭10‬:‭1‬-‭4‬, ‭7‬-‭11‬, ‭16‬-‭17‬, ‭19‬-‭29‬ ‭TH1940‬‬

  • “พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ได้​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “จง​ไป​หา​ฟา​โร​บอก​ว่า, ‘พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​ดังนี้​ว่า, “จง​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ให้​ไป​ปรนนิบัติ​เรา. ถ้าแม้​ไม่​ยอม, เรา​จะ​บันดาล​ให้​ฝูง​กบ​ขึ้น​มา​ทั่ว​ตลอด​อา​ณาเขตต์​ของ​ท่าน: ครั้งนั้น​กษัตริย์​ฟา​โร​ทรง​เรียก​โม​เซ​กับ​อา​โรน​มา​ว่า, “เจ้า​ทั้ง​สอง​จง​กราบ​ทูล​วิงวอน​ขอ​พระ​ยะ​โฮ​วา​ให้​ฝูง​กบ​ไป​เสีย​จาก​เรา, และ​พล​เมือง​ของ​เรา; แล้ว​เรา​จะ​ยอม​ปล่อย​บ่าวไพร่​นั้น​ให้​ไป​บูชายัญ​แก่​พระ​ยะ​โฮ​วา.” เมื่อ​กษัตริย์​ฟา​โร​ทรง​ทราบ​ว่า​ทุกข์​ร้าย​บรรเทา​ลง​แล้ว​พระทัย​ก็​กลับ​แข็งกระด้าง​ไป​อีก, ไม่​ยอม​เชื่อฟัง​โม​เซ​และ​อา​โรน; ตรง​กับ​คำ​ที่​พระ​ยะ​โฮ​วา​ตรัส​ไว้​แล้ว​นั้น พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “ใน​เวลา​รุ่งเช้า​จง​ลุก​ขึ้น​ยืน​ต่อหน้า​ฟา​โร; ฟาโร​จะ​มา​ยัง​แม่น้ำ; แล้ว​จง​บอก​ว่า, ‘พระ​ยะ​โฮ​วา​ตรัส​ดังนี้​ว่า, “จง​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ให้​ไป​ปรนนิบัติ​เรา ถ้าแม้​ไม่​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ไป, เรา​จะ​บันดาล​ให้​ฝูง​เหลือบ​ตอม​พระ​กาย​ของ​ท่าน, ตอม​ข้า​ราช​การ, และ​พล​เมือง​ด้วย: ฝูง​เหลือบ​จะ​เข้า​ไป​ใน​ราช​สำนัก, และ​ใน​เรือน​ของ​ชาว​อาย​ฆุบ​โต, และ​ตาม​พื้นดิน​ที่​เขา​อยู่​นั้น​จะ​เต็ม​ไป​ด้วย​ฝูง​เหลือบ. ใน​เวลา​นั้น​เรา​จะ​แยก​เมือง​โฆ​เซ็น, ที่​พล​ไพร่​ของ​เรา​อาศัย​อยู่​นั้น​ออก, มิ​ให้​ฝูง​เหลือบ​นั้น​อยู่​ที่นั่น; เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​รู้​ว่า​เรา​คือ​ยะโฮ​วา​สถิต​อยู่​ใน​ท่ามกลาง​แผ่น​ดิน​โลก. ฝ่าย​กษัตริย์​ฟา​โร​ได้​ทรง​เรียก​โม​เซ​และ​อา​โรน​มา​รับสั่ง​ว่า, “จง​ไป​บูชายัญ​แด่​พระเจ้า​ของ​เจ้า​ใน​เขตต์​ประเทศ​นี้.” กษัตริย์​ฟาโร​จึง​รับสั่ง​ว่า, “เรา​จะ​ปล่อย​พวก​เจ้า​ไป​เพื่อ​จะ​ได้​บูชายัญ​แด่​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​เจ้า​ใน​ป่า; แต่ว่า​พวก​เจ้า​อย่า​ไป​ให้​ไกล​นัก: จง​อธิษฐาน​พระเจ้า​เผื่อ​เรา​ด้วย.” ฝ่าย​กษัตริย์​ฟา​โร​ก็ได้​มี​พระทัย​แข็ง​กะ​ด้าง​ใน​คราวนี้​อีก​ด้วย, มิได้​ทรง​ยอม​ปล่อย​บ่าวไพร่​นั้น​ไป”

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭8‬:‭1‬-‭2‬, ‭8‬, ‭15‬, ‭20‬-‭22‬, ‭25‬, ‭28‬, ‭32‬ ‭TH1940‬‬

  • “พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “นี่แหละ, เรา​ได้​ตั้ง​เจ้า​ไว้​เป็น​ผู้แทน​พระเจ้า​ต่อ​ฟา​โร, และ​ได้​ตั้ง​อา​โรน​พี่ชาย​ของ​เจ้า​เป็น​ผู้​กล่าว​คำพยากรณ์​แทน​เจ้า. เจ้า​จะ​ประกาศ​ข้อความ​ทั้งหมด​ซึ่ง​เรา​สั่ง​แก่​เจ้า; แล้ว​อา​โรน​พี่ชาย​ของ​เจ้า​จะ​บอก​แก่​ฟา​โร​ให้​ปล่อย​ชนชาติ​ยิศ​รา​เอล​ออก​ไป​จาก​ประเทศ​ของ​ท่าน. เรา​จะ​ให้​ใจ​ของ​ฟา​โร​แข็ง​กะ​ด้าง​ไป, แล้ว​จะ​ทำ​หมาย​สำคัญ​และ​การ​อัศจรรย์​ของ​เรา​ให้​ทวี​มาก​ขึ้น​ใน​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต. แต่​ฟา​โร​คงจะ​ไม่​เชื่อฟัง​เจ้า, แล้ว​เรา​จึง​จะ​เหยียด​หัตถ์​ของ​เรา​เหนือ​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต, และ​จะ​พา​หมู่​กองพล​ไพร่​ของ​เรา, คือ​ชนชาติ​ยิศ​รา​เอล, ให้​พ้น​จาก​ประเทศ​นั้น​ด้วย​การ​ปรับโทษ​อัน​ใหญ่หลวง. และ​จง​กล่าว​แก่​ท่าน​ว่า, ‘พระ​ยะ​โฮ​วา, พระเจ้า​ของ​ชาติ​เฮ็บ​ราย, ตรัส​สั่ง​ให้​ข้าพ​เจ้า​มาบ​อก​ว่า, “จง​ปล่อย​พล​ไพร่​ของ​เรา​ไป, เพื่อ​เขา​จะ​ปรนนิบัติ​เรา​ใน​ป่า:” นี่แหละ, จน​ป่านนี้​ท่าน​ก็​มิได้​เชื่อฟัง.”

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭7‬:‭1‬-‭4‬, ‭16‬ ‭TH1940‬‬

  • “และ​พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “บัดนี้​เจ้า​จะ​เห็น​เหตุการณ์​ซึ่ง​เรา​จะ​กระทำ​แก่​กษัตริย์​ฟา​โร: คือ​ฟา​โร​จะ​ปล่อย​พล​ไพร่​ไป​ด้วย​ถูก​หัตถ์​อัน​ทรง​ฤทธิ์​บังคับ, และ​ท่าน​จะ​ไล่​พล​ไพร่​นั้น​ออก​จาก​ประเทศ​ด้วย​อำนาจ​แห่ง​หัตถ์​ของ​ท่าน​เอง.” พระเจ้า​ตรัส​แก่​โม​เซ​อีก​ว่า, “เรา​คือ​ยะโฮ​วา; เรา​ได้​ปรากฏ​แก่​อับ​รา​ฮาม, ยิศ​ฮา​ค​และ​ยา​โคบ, ด้วย​นาม​ว่า​พระเจ้า​ผู้​ทรง​ฤทธิ์​ส่วน​นาม​ยะ​โฮ​วา​นั้น, เรา​มิได้​สำแดง​ให้​เขา​รู้จัก​ว่า​เป็น​นาม​ของ​เรา​เอง. เรา​ได้​ตั้ง​คำ​สัญญา​ไมตรี​ของ​เรา​ไว้​กับ​เขา​ทั้ง​หลาย​แล้ว​ว่า, เรา​จะ​ยก​แผ่น​ดิน​คะ​นา​อัน, ซึ่ง​เป็น​แผ่น​ดิน​ที่​เขา​อาศัย​อยู่​เป็น​แขกเมือง​คราวก่อน, ให้แก่​เขา. อนึ่ง​เรา​ได้ยิน​เสียง​คร่ำ​ครวญ​ของ​ชนชาติ​ยิศ​รา​เอล, ซึ่ง​ชาติ​อาย​ฆุบ​โต​กัก​ไว้​ให้​เป็น​ทาส, และ​เรา​ได้​ระลึก​ถึง​คำ​สัญญา​ไมตรี​ของ​เรา​แล้ว. เหตุ​ฉะนี้​จง​กล่าว​แก่​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​นั้น​ว่า, เรา​คือ​ยะ​โฮ​วา, เรา​จะ​นำหน้า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ให้​ออก​จาก​การ​เกณฑ์​ของ​ชนชาติ​อาย​ฆุบ​โต. และ​จะ​ให้​พ้น​จาก​การ​เป็น​ทาส​ของ​เขา, และ​เรา​จะ​ให้​เจ้า​รอด​ด้วย​กร​ที่​เหยียด​ออก, และ​ด้วย​การ​ปรับโทษ​อัน​ใหญ่หลวง: เรา​จะ​รับ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​เป็น​พล​ไพร่, และ​เรา​จะ​เป็น​พระเจ้า​ของ​เจ้า; และ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​รู้​ว่า​เรา​คือ​ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​เจ้า, ผู้นำ​หน้า​เจ้า​ออก​จาก​งาน​หนัก​ซึ่ง​ชาติ​อาย​ฆุบ​โต​เกณฑ์​ให้​ทำ​นั้น. เรา​คือ​ยะ​โฮ​วา: จะ​นำ​พวก​เจ้า​ให้​ไป​ถึง​แผ่น​ดิน​ซึ่ง​เรา​ได้​ปฏิญาณ​ไว้​แก่​อับ​รา​ฮาม, ยิศ​ฮา​ค​และ​ยา​โคบ​ว่า, จะ​ยก​แผ่น​ดิน​นั้น​ให้แก่​พวก​เจ้า​เป็น​มฤดก.””

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭6‬:‭1‬-‭8‬ ‭TH1940‬‬

  • “ดูกร​พล​ไพร่​ของ​เรา, จง​เอียงหู​ฟัง​บทบัญญัติ​ของ​เรา; จง​เอียงหู​ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ฟัง​ถ้อยคำ​จาก​ปาก​ของ​เรา. ข้อความ​เหล่านั้น​พวกเรา​จะ​ไม่​ซ่อน​ไว้​จาก​ลูกหลาน​ของ​เรา, จะ​ประกาศ​เรื่อง​ถวาย​ความ​สรรเสริญ​พระ​ยะ​โฮ​วา​ให้แก่​คนใน​ชั่ว​อายุ​สืบไป​ฟัง, ทั้ง​พ​ลา​นุ​ภาพ, และ​การ​อัศจรรย์​ของ​พระองค์​ที่​ได้​ทรง​กระทำ​นั้น. เพราะ​พระองค์​ได้​ทรง​ตั้ง​คำ​ปฏิญาณ​ไว้​แก่​พวก​ยา​โค​บ, และ​ทรง​ตั้ง​ข้อบัญญัติ​ให้แก่​พวก​ยิศ​รา​เอล, ซึ่ง​พระองค์​ได้​ตรัส​สั่ง​ไว้​แก่​บรรพบุรุษ​ของ​เรา ให้​บอกเล่า​แก่​ลูกหลาน​ของ​เขา​ต่อๆ ไป. เพื่อ​คนใน​ยุค​หลัง​และ​ลูกหลาน​ของ​เรา​ด้วย​จะ​ได้​รู้, และ​เมื่อ​เขา​โต​ขึ้น​แล้ว​จะ​ได้​บอกเล่า​ให้​ลูกหลาน​ของ​เขา​ฟัง​ต่อๆ ไป, เพื่อ​จะ​ไว้วางใจ​ใน​พระเจ้า, และ​ไม่​ลืม​กิจการ​ของ​พระองค์, แต่​จะ​รักษา​บัญญัติ​ของ​พระองค์. และ​จะ​ไม่​ได้​เป็น​เช่น​บรรพ​บุ​รษ​ของ​เขา. คือ​ดื้อด้าน​และ​กบฏ, เป็น​ชาติ​ที่​ไม่​ปลงใจ​ให้ซื่อตรง, จิตต์ใจ​ของ​เขา​หา​ได้​ตั้ง​ให้​แน่วแน่​ต่อ​พระเจ้า​ไม่.”

    ‭‭บทเพลง​สรรเสริญ‬ ‭78‬:‭1‬, ‭4‬-‭8‬ ‭TH1940‬‬

  • กฏหมายของเครื่องบูชาเผาครบ (6:8-13)

    1. เครื่องเผาบูชา (สิ้นสุดตนเอง) จะต้องวางอยู่บนเตาไฟบนแท่นบูชาตลอดคืนจนถึงเช้า (พระคริสต์เสด็จกลับมา)

    2. มีไฟของพระเจ้า (พระวิญญาณ) อยู่บนแท่นเสมอ

    3. ปุโรหิตใส่ฟืนที่แท่นเวลาเช้าทุกวัน (ไม่เกียจคร้าน แต่​ปรนนิบัติ​พระ​​เจ้า​ด้วย​​วิญญาณ​ที่​กระตือ​รือร้น)

    4. ปุโรหิตสวมเสื้อผ้าป่านและกางเกง (สวมใส่พระคริสต์ปกปิดกายเปลือยเปล่าน่าอาย)

    5. เอาเถ้า (สิ้นสุดตัวตน) ออกไปข้างนอกที่พัก ใส่ไว้ในที่สะอาดด้านทิศตะวันออก (การเริ่มต้นการงานของพระเจ้า)

    6. เผามันสัตว์ของเครื่องบูชาสันติไมตรีที่นั่นด้วย (รับสุขการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า)

  • “ใน​เวลา​วัน​นั้น​กษัตริย์​ฟา​โร​จึง​มี​รับสั่ง​แก่​นายงาน​และ​นาย​กอง​ผู้​เกณฑ์​บ่าว​ไพร่​ว่า, “ตั้งแต่​วันนี้​ไป, เจ้า​ทั้ง​หลาย​อย่า​ให้​ฟาง​แก่​บ่าว​ไพร่​สำหรับ​ใช้​ทำ​อิฐ​เหมือน​แต่ก่อน: แต่​ให้​เขา​ไป​เที่ยวหา​ฟาง​เอง. และ​จำนวน​อิฐ​ซึ่ง​เกณฑ์​ให้​ทำ​แต่​ก่อน​เท่าไร, จง​เกณฑ์​เท่านั้น; อย่า​ได้​ลดหย่อน​เลย: เพราะว่า​เขา​เกียจคร้าน; เหตุ​ฉะนี้​จึง​พา​กัน​ร้อง​ว่า, ขอ​ให้​พวก​ข้าพ​เจ้า​ไป​ประกอบ​พิธี​บูชา​แก่​พระเจ้า​ของ​ข้าพ​เจ้า.’ จง​จัด​งาน​หนัก​กว่า​แต่ก่อน​ให้​เขา​ทำ: อย่า​ได้​ฟัง​คำ​อุบาย​ของ​เขา​เลย.”

    แต่​กษัตริย์​ฟา​โร​ตรัส​ว่า, “เจ้า​ทั้ง​หลาย​เป็น​คน​เกียจคร้าน, เป็น​คน​เกียจคร้าน​จริงๆ; เหตุ​ฉะนั้น​พวก​เจ้า​จึง​มา​ร้อง​ว่า, ‘ขอ​ให้​ข้าพ​เจ้า​ไป​ทำ​การ​บูชายัญ​แด่​พระ​ยะ​โฮ​วา.’ เหตุ​ฉะนั้น, เจ้า​จง​ไป​ทำงาน​เดี๋ยวนี้: ฟาง​นั้น​จะ​ไม่​ให้​พวก​เจ้า​เลย: แต่​จำนวน​อิฐ​ที่​เกณฑ์​ไว้​นั้น​พวก​เจ้า​จง​ทำ​ให้​ครบ​จำนวน.””

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭5‬:‭6‬-‭9‬, ‭17‬-‭18‬ ‭TH1940‬‬

  • “โม​เซ​จึง​ทูล​พระ​ยะ​โฮ​วา​ว่า, “ข้า​แต่​พระเจ้า, ข้าพ​เจ้า​มิใช่​คน​ช่างพูด; ใน​กาล​ก่อน​ก็ดี, หรือ​ตั้งแต่​เวลา​พระองค์​ตรัส​แก่​ทาส​ของ​พระองค์​แล้ว​ก็ดี, ข้าพ​เจ้า​เป็น​คน​พูด​ไม่​คล่องแคล่ว.” พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​แก่​โม​เซ​ว่า, “ผู้ใด​สร้าง​ปาก​มนุษย์, หรือ​กระทำ​ให้​คน​เป็น​ใบ้, คน​หูหนวก, คน​ตา​ดี​หรือ​ตาบอด? เรา​ยะ​โฮ​วา​เป็น​ผู้ทำ​ไม่​ใช่​หรือ? จง​ไป​เถิด: เรา​จะ​อยู่​ที่​ปาก​ของ​เจ้า, และ​จะ​สอน​เจ้า​ให้​พูด​คำ​ซึ่ง​ควร​จะ​พูด.” เจ้า​จง​ทูล​กษัตริย์​ฟา​โร​ว่า, ‘พระ​ยะ​โฮ​วา​ได้​ตรัส​ดังนี้​ว่า, “ชนชาติ​ยิศ​รา​เอล​นั้น​เป็น​บุตร​หัวปี​ของ​เรา; และ​เรา​บอก​แก่​เจ้า​ว่า. ‘จง​ปล่อย​บุตร​ของ​เรา​ให้​ไป​ปรนนิบัติ​เรา: ถ้าแม้​เจ้า​ไม่​ยอม​ให้​เขา​ไป, จง​ดู​เถิด. เรา​จะ​ประหาร​ชีวิต​บุตร​หัวปี​ของ​เจ้า​เสีย.’ ””

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭4‬:‭10‬-‭12‬, ‭22‬-‭23‬ ‭TH1940‬‬

  • “พระ​ยะ​โฮ​วา​จึง​ตรัส​ว่า, “แท้จริง​เรา​ได้​เห็น​ความ​ทุกข์​ของ​พวก​พล​ไพร่​ของ​เรา​ที่​อยู่​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต; เรา​ได้ยิน​เสียง​ร้อง​ของ​เขา​เพราะ​การ​กระทำ​ของ​นายงาน​นั้น; เรา​รู้​ถึง​ความ​ทุกข์​โศก​ของ​เขา. เรา​ลง​มา​เพื่อ​จะ​ได้​ช่วย​ให้​เขา​รอด​จาก​ชาติ​อาย​ฆุบ​โต, และ​นำ​เขา​ออก​จาก​ประเทศ​นั้น​ไป​ยัง​แผ่น​ดิน​ที่​ดี, กว้างขวาง, บริบูรณ์​ด้วย​น้ำนม​และ​น้ำผึ้ง: ซึ่ง​เป็น​ที่อยู่​ของ​ชาติ​คะ​นา​อัน, ชาติ​เฮธ, ชาติ​อะ​โมรี, ชาติ​พะ​ริ​ซี, ชาติ​ฮีวี, และ​ชาติ​ยะบูศ. บัดนี้​จง​ดู​เถิด, คำร้อง​ทุกข์​ของ​ชนชาติ​ยิศ​รา​เอลมา​ถึง​เรา​แล้ว; ทั้ง​เรา​ได้​เห็น​การ​ข่ม​เห​ง​ซึ่ง​ชนชาติ​อาย​ฆุบ​โต​ได้​ทำ​แก่​เขา. เหตุ​ฉะนี้​จง​มา​เถิด, เรา​จะ​ใช้​เจ้า​ไป​เฝ้า​กษัตริย์​ฟาโร, เพื่อ​เจ้า​จะ​ได้​พา​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​พล​ไพร่​ของ​เรา​ออก​จาก​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต.” ฝ่าย​โม​เซ​จึง​ทูล​พระเจ้า​ว่า, “ข้าพ​เจ้า​เป็น​ผู้ใด​เล่า​ที่​จะ​ไป​ทูล​กษัตริย์​ฟา​โร, และ​นำ​ชนชาติ​ยิศ​รา​เอล​ออก​จาก​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต?” พระองค์​จึง​ตรัส​ว่า, “แท้​จริง​เรา​จะ​อยู่​กับ​เจ้า; นี่​เป็น​หมาย​สำคัญ​ให้​เจ้า​รู้​แน่​ว่า​เรา​ได้​ใช้​ให้​เจ้า​ไป: คือ​เมื่อ​เจ้า​นำ​พล​ไพร่​ออก​จาก​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​แล้ว, เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​ปรนนิบัติ​พระเจ้า​บน​ภูเขา​นี้.” เขา​จะ​เชื่อ​ถ้อย​ฟัง​คำ​ของ​เจ้า, และ​เจ้า​กับ​ผู้​เฒ่า​ของ​ชาติ​ยิศ​รา​เอล​จง​พา​กัน​ไป​เฝ้า​กษัตริย์​ของ​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​ทูล​ว่า, ‘ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​ชน​ชาติ​เฮ็บ​รายได้​ปรากฏ​แก่​ข้าพ​เจ้า​ทั้ง​หลาย: บัดนี้​ขอ​ได้​โปรด​ให้​ข้าพ​เจ้า​ไป​ใน​ป่า​กันดาร​สัก​สาม​วัน, เพื่อ​จะ​บูชายัญ​แก่​พระ​ยะ​โฮ​วา​พระเจ้า​ของ​ข้า​พ​เจ้า. เรา​รู้​แล้ว​ว่า​กษัตริย์​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต​จะ​ไม่​ยอม​ให้​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ไป, เว้นแต่​จะ​ถูก​บังคับ​ด้วย​หัตถ์​อัน​ทรง​ฤทธิ์.”

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭3‬:‭7‬-‭12‬, ‭18‬-‭19‬ ‭TH1940‬‬

  • “ครั้น​ล่วง​มา​ช้านาน, กษัตริย์​อาย​ฆุบ​โต​ก็​สิ้น​พระ​ชนม์: ชาติ​ยิศ​รา​เอล​ก็​เศร้า​สะท้อน​ใจ​มาก, เพราะ​เหตุ​ที่​เป็น​ทาส, เขา​จึง​ร้อง​ไห้​คร่ำ​ครวญ​จน​เสียง​นั้น​ได้​ขึ้น​ไป​ถึง​พระเจ้า, ด้วยเหตุที่​เป็น​ทาส​นั้น. พระเจ้า​ได้​สดับ​ฟัง​เสียง​คร่ำ​ครวญ​ของ​เขา, จึง​ทรง​ระลึก​ถึง​คำ​สัญญา​ที่​พระองค์​ได้​ทรง​กระทำ​ไว้​กับ​อับ​รา​ฮาม, ยิศ​ฮา​ค, และ​ยา​โคบ. พระเจ้า​ได้​ทรง​ทอด​พระเนตร​ดู​ชาติ​ยิศ​รา​เอล, แล้ว​ทรง​ทราบ​ถึง​ความ​เป็น​ไป​ของ​เขา”

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭2‬:‭23‬-‭25‬ ‭TH1940‬‬

  • “กษัตริย์​องค์​ใหม่​ขึ้น​เสวย​ราชสมบัติ​ใน​ประเทศ​อาย​ฆุบ​โต, พระองค์​นั้น​มิได้​ทรง​รู้จัก​ลูกหลาน​โย​เซฟ​เลย. ‘จึง​ทรง​ประกาศ​แก่​ประชาชน​ว่า, “นี่แหละ, ชาติ​ยิศ​รา​เอล​ก็​มี​มาก, และ​มี​กำลัง​ยิ่ง​กว่า​เรา​อีก: ให้​เรา​พิเคราะห์​ดู, ใช้​อุบาย​อัน​แยบคาย​กระทำ​แก่​พวก​นี้, เกลือก​ว่า​เขา​จะ​ทวี​มาก​ขึ้น, ถ้า​เกิด​สงคราม​ขึ้น​เมื่อใด, ชนชาติ​นี้​จะ​เข้า​สมทบ​กับ​พวก​ข้าศึก, สู้รบ​กับ​เรา, แล้ว​จะ​ยก​ไป​ให​พ้น​อาณาจักร.” ชาติ​อาย​ฆุบ​โต​ได้​กะเกณฑ์​ชนชาติ​ยิศ​รา​เอล​ให้​ทำ​การ​หนัก​ยิ่ง​ขึ้น; ได้​กระทำ​ให้​เขา​รู้สึก​เบื่อหน่าย​ชีวิต​ของ​ตน​เพราะ​การ​หนัก​ที่​เขา​ทำ, เช่น​ทำ​ปูน​ทำ​อิฐ​และ​ทำ​การ​ต่างๆ ที่​ทุ่งนา​จน​เหลือกำลัง”

    ‭‭เอ็ก​โซ​โด‬ ‭1‬:‭8‬-‭10‬, ‭13‬-‭14‬ ‭TH1940‬‬

  • “ข้าพ​เจ้า​จะ​ประกาศ​กิจการ​ของ​พระ​ยะ​โฮ​วา; เพราะ​ข้าพ​เจ้า​จะ​ระลึก​ถึง​การ​อัศจรรย์​ของ​พระองค์​ตั้งแต่​กาล​โบราณ​มา. ข้าพ​เจ้า​จะ​ใคร่ครวญ​ดู​บรรดา​กิจการ​ของ​พระองค์​ด้วย, และ​จะ​รำพึง​ถึง​กิจการ​ที่​พระองค์​ได้​ทรง​กระทำ​นั้น. ข้า​แต่​พระเจ้า, ทาง​ของ​พระองค์​เป็น​ทาง​บริสุทธิ์: ใคร​เป็น​พระ​ใหญ่​ยิ่ง​เหมือน​พระเจ้า​เล่า? พระองค์​เป็น​พระเจ้า​ผู้​ทรง​กระทำ​การ​อัศจรรย์: พระองค์​ได้​ทรง​สำแดง​พ​ลา​นุ​ภาพ​ของ​พระองค์​ให้​ปรากฏ​แจ้ง​ใน​ท่ามกลาง​ชน​นานา​ประเทศ.”

    ‭‭บทเพลง​สรรเสริญ‬ ‭77‬:‭11‬-‭14‬ ‭TH1940

  • “พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย, บัดนี้​ข้าพ​เจ้า​ขอ​เตือน​สติ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ว่า, จง​พิเคราะห์​ดู​คน​เหล่านั้น​ที่​ก่อ​เหตุ​วิวาท​กัน​และ​ขัด​เคือง​กัน ซึ่ง​เป็น​การ​ผิด​จาก​คำ​สอน​ซึ่ง​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ได้​เรียน​ไว้​แล้ว​นั้น จง​เมิน​หน้า​จาก​คน​เหล่านั้น. เพราะว่า​คน​อย่าง​นั้น​หา​ได้​ปฏิบัติ​พระ​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้าของ​เรา​ไม่, แต่​ได้​ปรนนิบัติ​ท้อง​ของ​ตัว​เอง และ​ได้​ล่อลวง​คน​ซื่อ​ให้​หลง​ด้วย​คำ​ดี​คำ​อ่อน​หวาน​ของ​ตน”

    ‭‭โรม‬ ‭16‬:‭17‬-‭18‬ ‭TH1940‬‬

  • “พระองค์, คือ​พระองค์​ผู้​เดียว, เป็น​ที่​พึง​กลัว; และ​ขณะ​เมื่อ​พระองค์​ทรง​พิ​โรธ​ผู้ใด​อาจ​ยืน​ตรง​พระ​พักตร​พระองค์​ได้? พระองค์​รับสั่ง​ให้​คำพิพากษา​ดัง​มา​จาก​สวรรค์; แผ่น​ดิน​โลก​จึง​ได้​กลัว, และ​เงียบกริบ​อยู่. ขณะ​เมื่อ​พระเจ้า​เสด็จ​มา​พิพากษา, เพื่อ​จะ​ทรง​ช่วย​บรรดา​คน​ที่มีใจอ่อนสุภาพ (ถูกกดขี่) ใน​โลก​นี้​ให้​รอด.”

    ‭‭บทเพลง​สรรเสริญ‬ ‭76‬:‭7‬-‭9‬